3 ชั่วโมง ตร. ตามรวบช่างตัดผม มือกระหน่ำยิงอริดับ หลังพยายามหลบหนีข้ามจังหวัด เผยปม เบิ้ลรถเสียงดัง

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 เมษายน 2566 พ.ต.ท.ณรงค์รัชช์ ภัทรวิกรัยกุล สารวัตรเวร สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หมู่ 8 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนเพชรเกษม ขาลงใต้ ตรงข้ามจุดตรวจสามแยกท่าศาลา บริเวณซอยหัวเขา ม.8 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี บนลานดินพบร่างของ นายนที หรือนัท เขตน้อย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 9 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก ท้อง และสีข้างขวา ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอนุสรณ์ หรือน็อต กองเงิน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 ต.ท่าเสน เจ้าของร้านตัดผม “NOT BARBER” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ ห่างประมาณ 10 เมตรหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน

โดยเมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 17 เมษายน 2566 ตร.ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ ตำรวจภาค 7 และ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านลาด ได้ติดตามไปจับกุมนายอนุสรณ์ หรือน็อต กองเงิน อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายนที หรือนัท เขตน้อย อายุ 39 ปี เสียชีวิต ที่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แล้วขับรถกระบะหลบหนี โดยจับได้ที่หมู่บ้านซอยตัน หมู่ 2 ต.บางนาลี่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ต่อมา พล.ต.ต.ปิติ ผบก. ภ.จวเพชรบุรี เดินทางมาที่ สภ.บ้านลาด สอบสวนด้วยตนเอง เบื้องต้นนายอนุสรณ์รับสารภาพว่า มีปัญหากับ นายนที มานาน เมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ นายนที และแฟนสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านตัดผมของตนและตะโกนให้ของลับ จากนั้นไม่นานนายนทีได้ขับรถ จักรยานยนต์ กลับมาเพียงคนเดียวและจอดรถหน้าร้านค้าที่ติดกับร้านตัดผมของตน และเดินเข้ามาพูดจาหาเรื่องตน ตนจึงใช้อาวุธปืน ยิงนายนที เสียชีวิต แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และนำปืนไปซ่อนไว้ที่บ้าน แฟนสาว จากนั้นใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ขับหลบหนีมุ่งหน้าจะเข้ากรุงเทพฯ ก่อนหลงทาง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ที่ จ.สมุทรสงครามดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิติ ผบก. ภ.จวเพชรบุรี ได้กล่าวชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านลาด รวมไปถึง ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว และบูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมด้วยเทคนิควิธีการสืบสวนที่มีคุณภาพรวดเร็ว จนสามารถนำไปสู่การจับผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลานับจากหลังเกิดเหตุ เพียง 3 ชั่วโมงกว่า ก็สามารถคลี่คลายคดี และจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายได้

เครดิต ข่าวเด็ดเพชรบุรี