หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 14 กันยายน 2567

วันที่ 15 กันยายน 2567 เวลา 05:50 น.


24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 14 กันยายน 2567

>> ไฟไหม้ ห้องประชุม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เร่งตรวจสอบความเสียหาย

04.00 น. ร.ต.อ.อรุณ สืบสิงห์ รองสารวัตร(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท นำรถน้ำ 3 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร สูง 6 ชั้น (ตึก5) พบมีกลุ่มควันและแสงเพลิงอยู่บริเวณชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นห้องประชุม เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำฉีดประมาณ 10 นาที เพลิงสงบลง จึงตรวจสอบพบเพลิงไหม้วอดเสียหายเฉพาะห้องประชุมโดยไม่ลุกลามห้องใกล้เคียง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าต้นเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และหลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป

>> คนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เผา อบต.บ้านโหนด รัวยิงสำนักงาน

06.00 น. ร.ต.ท.นาธาน เขมิสรานนท์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านโหนด รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ตั้งอยู่ด้านหน้า อบต.บ้านโหนด และวางเพลิงเผา อบต.บ้านโหนดได้รับความเสียหาย เหตุเกิดในพื้นที่ ม.2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.คมสัน ศรีวิเชียร หัวหน้า สภ.บ้านโหนด พร้อมชุดจู่โจมและชุดสืบสวน ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ฉก.40 และฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย

ที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็มถูกลอบวางระเบิดเสียหายทั้งตู้ และภายใน อบต.บ้านโหนด ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงทำให้อาคารสำนักงาน และรถยนต์ทางราชการได้รับความเสียหาย และยังอยู่ระหว่างการสำรวจและสรุปความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากการสอบสวนเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า มีคนร้ายประมาณ 6 คน เข้ามาลอบก่อเหตุทั้งวางระเบิดตู้เอทีเอ็มที่อยู่ด้านหน้า อบต.บ้านโหนด และเข้าไปวางเพลิงภายใน อบต.บ้านโหนด และคนร้ายยังใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าไปในสำนักงาน อบต.บ้านโหนด ประมาณ 10 นัด หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน 3 คัน หลบหนีมุ่งหน้าไปในพื้นที่บ้านกระเชะ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย รอยต่อกับ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์

>> รวบ 2 โจร ใช้ปืนปลอมจี้ชิงทอง 62 บาท ห้างดังเมืองระนอง

08.30 น. ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สภ.เมืองระนอง และหน่วยปฎิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ได้รวบตัวนายวีระวุธ อายุ 40 ปี และ นส.หญิง อายุ 16 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองในห้างดังเมืองระนอง หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อเหตุบุกชิงทองเมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ที่ผ่านมา

โดยสามารถตามทองกลับมาได้น้ำหนัก 53 บาท จากทองหนัก 62 บาท ยังมีทองที่หายไปอีกน้ำหนัก 9 บาท ตามยอดที่ทางร้านแจ้งมา ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่า น่าจะมีทองบางส่วนหล่นหายไปในระหว่างหลบหนี แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม" โดยได้แยกตัวเยาวชนหญิง เพื่อรอสอบปากคำละเอียดพร้อมทีมสหวิชาชีพอีกครั้ง ตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง

>> นักท่องเที่ยวทะลักสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เตรียมจัดคิวรอบละ 5 นาที เข้าชม "หมูเด้ง"

11.30 น. นายณรงค์วิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เปิดเผยว่า กระแสของ "หมูเด้ง" ลูกฮิปโปแคระตัวเมีย วัย 2 เดือน ที่ดังไกลระดับโลกจนนิตยสาร TIME นำไปขึ้นปกและมีแฟนคลับที่ติดตามจำนวนมาก

ล่าสุดช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กระแสของหมูเด้ง แรงมากตั้งแต่เวลา 07.00 น. มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมารอซื้อบัตรเข้าสวนสัตว์เปิดเขาเขียวก่อนเวลาเปิด 08.00 น. จนส่งผลให้มีการจราจรติดขัดที่ด้านนอกสวนสัตว์ ทั้งนี้จากการประเมินครึ่งวันเช้ามีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมหมูเด้ง มากกว่า 12,000 คน ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยสวนสัตว์จำเป็นต้องวางมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวให้ได้เข้าชมหมูเด้ง เบื้องต้นจะมีการปรับให้เวลาให้นักท่องเทียวดูหมูเด้งและแม่โจน่า รอบละ 5 นาที กำหนดเข้าส่วนจัดแสดง รอบละ 30-50 คนเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดจนเกินไป นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดถ่ายทอดสดชมหมูเด้งตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางช่องทาง Zoodio Live Streaming คาดว่าเร็วสุดคือสัปดาห์หน้า

สำหรับ "หมูเด้ง" เป็นลูกฮิปโปแคระตัวเมียอายุ 2 เดือน หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาทั้งการไลฟ์ผ่านทางเพจขาหมูแอนด์เดอะแก๊งค์ และช่องทางโซเชียลโดยมีพี่เบนซ์ พี่เลี้ยงที่ดูแลหมูเด้ง จนเกิดกระแสฮิตเพียงชั่วข้ามคืน

>> หน่วยบินเฉพาะกิจศูนย์การบินทหารบกจัด ฮ. MI-17 ส่งเสบียงช่วยเหลือในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากภายนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

14.00 น. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 37 ร่วมกับหน่วยบินเฉพาะกิจ (ศบบ.) ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยได้จัดส่งอากาศยาน ฮ.ท.17 จำนวน 1 เครื่อง ในการขนส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากภายนอกที่ บ้านจะตี อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย

ปฏิบัติการขนส่งเสบียงในครั้งนี้ใช้ตะกร้ากู้ภัยในการส่งเสบียงลงพื้นที่อย่างปลอดภัย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 14.00 - 18.30 น. ของวันที่ 14 กันยายน 2567 ซึ่งมีการขนส่งเสบียงทั้งหมด 4 เที่ยวบิน รวมถึงขนส่งเสบียงอาหารจำนวน 400 กล่อง น้ำดื่ม 40 แพค และถุงยังชีพ 300 ถุง น้ำหนักรวม 1,298 กิโลกรัม

ปฏิบัติการครั้งนี้ได้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและประสบผลสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยการขนส่งเสบียงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

>> ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังบุกทลาย 2 เครือข่าย เจ้าแม่เงินกู้ ดอกเบี้ยโหด

15.00 น. ตำรวจไซเบอร์นำกำลังปฏิบัติการบุกทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ ตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลา

โดยจุดแรกนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนาทวี เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เข้าจับกุม น.ส.กัญญา (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมตรวจยึดเอกสารรายชื่อลูกค้าจำนวนมากที่ติดต่อใช้บริการสินเชื่อ การกู้ยืมเงินเกินอัตรตราที่กฏหมายกำหนด จำนวน 3 ฉบับ

ส่วนในจุดที่ 2 นำกำลังพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าจับกุม น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ มีข้อมูลรายชื่อลูกค้าที่ติดต่อการกู้ยืมเงินจำนวนมาก และการโพสต์ชักชวนให้ลูกค้าเข้ามากู้ยืมเงินทางออนไลน์

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวร กก.2 บก.สอท.5 ตรวจพบมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โดยมี น.ส.กัญญา เป็นเจ้าของบัญชี มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา และบัญชีเฟซบุ๊กอีกบัญชีหนึ่ง โดยมี น.ส.พร เป็นเจ้าของบัญชี ทั้งสองรายมีพฤติกรรมการปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 30-60 บาทต่อเดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นและเข้าจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและเอกสารการกู้ยืมเงิน เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

>> สธ.เผยเหตุ น้ำท่วม-ดินถล่ม ‘เชียงใหม่-เชียงราย เสียชีวิตแล้ว 16 ราย เจ็บ 136 ราย

16.30 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-13 ก.ย. ว่า พบมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่

1.เชียงใหม่ คือ อ.แม่อาย และ อ.ฝาง ผู้ได้รับผลกระทบสะสม 2,978 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 109 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 3 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านท่ามะแกง ซึ่งยังต้องปิดให้บริการ มีการเปิดศูนย์พักพิง 7 แห่ง (แม่อาย 6 แห่ง ฝาง 1 แห่ง)

2.เชียงราย ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.เมือง ผู้ได้รับผลกระทบ 24,925 ครัวเรือน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 308 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 133 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 5 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.แม่สาย รพ.สต.โป่งผา รพ.สต.สามัคคีใหม่ รพ.สต.ป่ายาง และ รพ.สต.รอบเวียง แต่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ มีการเปิดศูนย์พักพิง 22 แห่ง (เมือง 12 แห่ง แม่สาย 7 แห่ง แม่จัน เวียงชัย และแม่ฟ้าหลวง อำเภอละ 1 แห่ง)

ทั้ง 2 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตสะสม 16 ราย สาเหตุมาจากดินถล่ม พลัดตกน้ำ/จมน้ำ และถูกกระแสน้ำพัด ผู้บาดเจ็บสะสม 136 ราย สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 6 แห่ง บุคลากรทางการแพทย์ได้รับผลกระทบรวม 417 ราย ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้วทั้ง 2 จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ได้ให้เร่งดำเนินการตามแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด ดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและเฝ้าระวังปัญหาโรคระบาด

>> บขส. แจ้ง หยุดวิ่งรถโดยสาร หนองคาย-เวียงจันทน์ ตั้งแต่ 15 ก.ย.เป็นต้นไป

19.00 น. นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากสถานีเดินรถหนองคายว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำโขงเอ่อล้นเข้าท่วมภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.หนองคาย ทำให้รถโดยสารไม่สามารถเข้าใช้สถานีขนส่งฯได้ ทางสถานีเดินรถหนองคายจึงได้ติดต่อประสานงานไปยังหน่วยงานเทศบาล และสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย เพื่อให้รถโดยสารทุกชนิดรับ-ส่ง ผู้โดยสารบริเวณศูนย์โอท็อป จ.หนองคาย เป็นการชั่วคราว ซึ่งห่างจากสถานีขนส่งฯประมาณ 3 กิโลเมตร

ทั้งนี้ เส้นทางเดินรถโดยสารกรุงเทพฯ-หนองคาย ยังคงเปิดการเดินรถได้ปกติ ส่วนเส้นทางเดินรถระหว่างประเทศ หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ จะหยุดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2567 เป็นต้นไป บขส.ต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวก หากได้รับแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์น้ำท่วม หรือมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

>> หนองคายแจ้งด่วน กำแพงป้องกันน้ำริมโขง พระธาตุหล้าหนองแตกแล้ว เตือนประชาชน ให้ขนของขึ้นที่สูง

20.30 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดหนองคาย ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า เขื่อนกระสอบทรายตรงชุมชนวัดธาตุพังลงความยาวประมาณ 10 เมตร ขณะนี้กำลังช่วยกันนำกระสอบทรายมาเสริมเต็มที่

ต่อมาได้โพสต์ข้อความระบุว่า กำแพงป้องกันน้ำริมโขง พระธาตุหล้าหนองแตก ถ.มีชัย ถ.ประจักษ์ ให้ขนของขึ้นที่สูง คาดการณ์ว่าน้ำจะขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร ขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อความไม่ประมาท 

ข่าวยอดนิยม