24 ชั่วโมงข่าว ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2567

>> ไฟไหม้อาคารจอดรถโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รถได้รับความเสียหาย 6 คัน

03.55 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ลานจอดรถ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เลขที่ 315 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เพลิงลุกไหม้รถยนต์เสียหายทั้งหมดจำนวน 6 คัน ภายในลานจอดชั้น 9 เอ เสียหายจำนวน 1 คัน เสียหายเล็กน้อย 1 คัน และลุกลามลานจอดชั้น 9ฺ บี เสียหายบางส่วน 4 คัน 6 คันแบ่งเป็น รถกระบะ 2 คัน และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 4 คัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้ ไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากรถต้นเพลิงคันที่ 1 เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท

>> ตำรวจไซเบอร์ รวบผัวเมีย เปิดเว็บพนัน ‘หวยแบงค์.com’ เงินหมุนเวียนเดือนละ 11 ล้าน

11.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.2 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา และศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.2 ตรวจสอบพบเว็บไซต์พนันออนไลน์ชื่อ “หวยแบงค์.com” มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 8,700 คน ลักลอบเปิดให้เล่นการพนันหลายประเภท อาทิ สลากกินรวบออนไลน์ หวยยี่กีออนไลน์ ทายผลหวยต่างประเทศออนไลน์ และการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หลายประเภท มียอดเงินหมุนเวียนเฉลี่ยเดือนละกว่า 11 ล้านบาท หรือปีละกว่า 132 ล้านบาท จับกุมตัว นายธร (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี และน.ส.ภร (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา ร่วมกันเป็นผู้รับผลประโยชน์จากเว็บพนัน และเป็นเจ้าของบ้าน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ย่านซอยเสรีไทย 9 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม

ผลการตรวจค้นทั้ง 6 จุด สามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ประกอบด้วย รถยนต์ปอร์เช่ คาเยน 1 คัน ราคา 6 ล้านบาท รถยนต์เบนซ์ อี300 1 คัน ราคา 3 ล้านบาท รถยนต์เลคซัส แอลเอ็ม350เอช 1 คัน ราคา 7 ล้านบาท อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 6 เรือน สมุดบัญชีธนาคาร 20 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 11 ใบ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้กว่า 16 ล้านบาท

>> ทักษิณ ชินวัตร ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ้นโทษทันที ไม่ต้องรอ 31 ส.ค. อีก 50,000 นักโทษก็ได้ปล่อยตัวจากเรือนจำทั่วประเทศ

13.50 น. น. พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567 จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ประมาณ 50,000 ราย จากเรือนจำทั่วประเทศ ตามมาตรา 5 นอกจากนี้ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับสิทธิ เข้าหลักเกณฑ์ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย

โดยกรมราชทัณฑ์เตรียมประชุมเตรียมความพร้อมรองรับผู้ต้องที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำ ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาดทั่วประเทศ ที่ควบคุมอยู่ในเรือนจำ 220,094 ราย เป็นนักโทษชาย 192,898 และนักโทษหญิง 27,196 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 290,749 ราย จากข้อมูลกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 16 ส.ค.2567

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567 นั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้พ้นโทษ เป็นอิสระทันที ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดโทษในวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากเป็นผู้ถูกคุมประพฤติ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567 ฉบับนี้ รายงานงานแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยต้นพ้นจากการเป็นผู้ถูกคุมประพฤติ ครั้งนี้ประมาณ 7,500 รายทั่วประเทศ ซึ่งนายทักษิณเป็นหนึ่งในผู้ถูกคุมประพฤพติ โดยสามารถเดินทางไปรับใบบริสุทธิ์ จากเรือนจำได้

>> อธิบดีราชทัณฑ์ เผยนักโทษคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 67 ลดโทษประหาร เหลือจำคุกตลอดชีวิต

14.30 น. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าข่ายได้ประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ มีทั้งกลุ่มได้ลดวันต้องโทษ กลุ่มพักโทษ กลุ่มกักขังแทนค่าปรับและ กลุ่มที่ได้พ้นโทษ ซึ่งจะมีการทยอยปล่อยตัวและดำเนินการลดโทษตามพระราชกฤษฎีกากำหนดภายใน 120 วัน

โดยผู้ต้องขังที่ได้รับประโยชน์ตามพระราชกฤฎีกานี้ กำหนดไว้ต้องเป็นผู้ได้รับโทษแล้วไม่น้อยกว่า 1ใน 3 หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ขึ้นกับจำนวนวันต้องโทษ ขั้นตอนหลังจากมีประกาศพระราชกิจจา กรมราชทัณฑ์ ต้องตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบรายชื่อคุณสมบัติให้ถูกต้อง โดยกลุ่มที่ได้ปล่อยตัวพ้นจากเรือนจำ เป็นกลุ่มที่กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอไปยังศาลเพื่อขอหมายปล่อยให้ก่อน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า มีผู้ต้องขังคดีสำคัญได้รับประโยชน์เช่นกัน ได้แก่ กลุ่มคดีจำนำข้าว นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง และพวกเข้าข่ายได้ลดวันต้องโทษ เหลือโทษน้อยลง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้ลดวันต้องโทษ ส่วนนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ นักโทษคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ได้อภัยลดโทษจากประหารชีวิต เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต

>> หนุ่มปืนโหด รัว 3 นัด ยิงอริดับ ริมถนนจังหวัดสตูล

16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู จ.สตูล รับรายงานการเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้อาวุธปืน มีผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งใน ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล พบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายแสงอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และน.ส.สุไวบ๊ะ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก ตกอยู่

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตาย และผู้ต้องหา นายสม (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาวอ.ท่าแพ จ.สตูล เกิดเขม่นกัน ภายในร้านข้ามต้ม ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง มีพลเมืองดีเข้าห้าม แต่สุดท้ายผูต้องหา ชักปืนขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวมา ยิงใส่นายแสงอรุณ ผู้ตาย เข้าที่หน้าอก 3 นัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู เร่งติดตามตัวนายสมมาตรมือปืน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> สองพี่น้องหนียายออกมาเล่นน้ำ ในบ่อน้ำกลางหมู่บ้าน จมน้ำดับ 2 ศพ

16.30 น. สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 ศพ บริเวณบ่อน้ำ ภายในพื้นที่บ้านเขาตอง หมู่ 9 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญ พร้อมด้วยแพทย์ รพ.พหลพลพยุหเสนา เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบเป็นบ่อลูกรังขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ที่ พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายและเด็กหญิง ทราบชื่อคือ ด.ช.โอ อายุ 10 ปี และด.ญ.ปีใหม่ อายุ 6 ปี

สอบถามแม่ของเด็ก เปิดเผยว่า เด็กทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนอยู่กับยายที่บ้าน ซึ่งห่างจากบ่อน้ำประมาณ 500 เมตร โดยพ่อและแม่ออกไปทำงาน กระทั่งช่วงสายยายของเด็กได้โทรมาบอกว่า เด็กทั้งสองคนหายออกไปจากบ้าน พ่อและแม่จึงรีบกลับมาบ้านและออกตามหา กระทั่งพบร่างของลูกชายและลูกสาว จมน้ำเสียชีวิตอยู่ที่ก้นบ่อ

>> ปคม. ลุยขยายผลกวาดล้าง "แก๊สหัวเราะ" เกาะเต่า จับบริษัทต้นตอผลิตจำหน่าย

17.53 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. สนธิกำลังกับตำรวจน้ำ เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขยายผลจับกุมขบวนการลักลอบจำหน่ายแก๊สหัวเราะให้กับบาร์ที่ถูกจับกุมดังกล่าวรวมทั้งบาร์หรือสถานบันเทิงอื่นๆ ในพื้นที่

สำหรับเป้าหมายแรกเป็นร้านและสำนักงานหจก.แห่งหนึ่งพบถังแก๊สไนตรัสออกไซด์ แต่ตรวจสอบแล้วซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเป้าหมายที่สอง เป็นบริษัทที่ขายแก๊สไนตรัสออกไซด์ ให้กับเจ้าของบาร์ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้พบถังแก๊สกว่า 20 ถัง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> หนีตายอลหม่าน ไฟไหม้โรงแรม กลางเมืองอุดรฯ

19.20 น. ศูนย์วิทยุ 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุไฟไหม้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครอุดรธานีหลายสิบคันจึงรุดไปที่เกิดเหตุทันที ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณชั้น 2 จากจำนวน 5 ชั้น ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องเก็บของ โดยเจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ขณะที่ลูกค้านักท่องเที่ยวและพนักงานโรงแรมต่างตกใจวิ่งหนีตายกันอลหม่าน เจ้าหน้าที่ได้กั้นบริเวณดังกล่าวไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคารเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย

นายกิตติวัฒน์ สารสาร หัวหน้างานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยว่า สอบสวนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า จุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ โดยเฉพาะที่นอนสำรอง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังห้องพักของโรงแรม เบื้องต้นยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุต้องรอให้ตำรวจเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

>> เจ็ตสกีชนเรือหางยาว ใกล้ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก มีผู้สูญหาย 2 ราย

21.45 น. เกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เจ็ตสกีชนกับเรือหางยาว กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดใกล้ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก หมู่ที่ 7 ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และสูญหายภายในน้ำอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจัดทีมกู้ภัยทางน้ำอยู่ระหว่างดำเนินการค้นหา

ล่าสุดเวลา 03.10 น. (18 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู ค้นหาร่างผู้สูญหายพบทั้ง 2 คนแล้ว โดยเคลื่อนย้ายนำขึ้นฝั่งก่อนส่งชันสูตรต่อไป พื้นที่ สภ.พระประแดง