วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เชียงใหม่ นิวส์ ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ทางศูนย์วิทยุกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้ง มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทองคำ จากร้านทอง ในห้างดังของเชียงใหม่ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ คนร้ายได้ทองไปจำนวนหนึ่ง ก่อนจะใช้รยนต์ สีขาว ทะเบียนจังหวัดจันทบุรี หลบหนีไป โดยทางศูนย์วิทยุจึงได้แจ้งให้ กับสถานีตำรวจสี่มุมเมือง และสถานีตำรวจอำเภอใกล้เคียงให้ตั้งด่านสกัดคนร้ายรายนี้เป็นการด่วน และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น โดย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผกก.สภ.แม่ปิง พร้อมด้วยชุดสืบสวน จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่รุดไปยังที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายสวมใส่เสื้อไรเดอร์ สูงประมาณ 170 ซม. ได้เดินเข้ามาในห้างและได้กระโดดขึ้นตู้ทอง ก่อนจะกวาดทองไปจำนวนหนึ่งประมาณ 50-60 บาท ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกไปที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนร้ายใช้รถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียนจังหวัดจันทบุรี หลบหนีไปทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง

ส่วนทองคำที่คนร้ายได้ไปประมาณ 50-60 บาท ทางร้านกำลังตรวจสอบอีกครั้งถึงจำนวนที่คนร้ายได้ไป

ตำรวจเร่งแกะรอยคนร้ายชิงทอง พบทิ้งรถทางขึ้นดอยสุเทพ

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสพบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว ถูกขับมาจอดทิ้งไว้บริเวณเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ เลยขึ้นไปจากวัดผาลาด ประมาณ 500 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

ทางด้าน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 , เจ้าหน้าที่สืบสวนภูธรเชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าทำการตรวจหาเบาะแสของคนร้าย ที่สันนิษฐานว่า น่าจะทำการหลบหนีไป เนื่องจากรถยนต์ถูกจอดทิ้งไว้แต่ไม่พบคนร้ายหรือผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังพบเบาะแสสำคัญเป็นรอยคราบเลือดบริเวณเบาะหน้าด้านข้างคนขับ และรอยเลือดที่เลอะเปื้อนสิ่งของ จึงได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ในส่วนของทรัพย์สินอื่นๆ มีเพียงสมุดเอกสาร และของใช้ส่วนตัวที่อยู่ภายในรถ แต่ไม่พบของกลางทองคำที่คนร้ายก่อเหตุชิงมาแต่อย่างใด ซึ่งสันนิษฐานว่าคนร้ายนั้นน่าจะนำทองที่ก่อเหตุติดตัวหลบหนีไปด้วย ส่วนรอยคราบเลือดนั้นก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นรอยเลือดของคนร้าย หรืออาจจะมีบุคคลที่ถูกทำร้ายอยู่ภายในรถคันดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จากการตรวจสอบร่องรอยภายในรถเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า ร่องรอยคราบเลือดที่พบภายในรถนั้นเป็นของใคร แต่สันนิษฐานได้ว่า บุคคลที่อยู่ภายในรถนั้นอาจจะบาดเจ็บหรือถูกยิง และยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบประติดประต่อเรื่องราวว่า รถคันดังกล่าวก่อนเกิดเหตุอยู่ที่ไหน และใครเป็นคนขับมาใช้ก่อเหตุ และตอนนี้คาดว่าภายในรถคันดังกล่าวต้องมีคนโดยสารมาเกิน 2 คน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ารอยเลือดที่พบนี้จะเกิดก่อนก่อเหตุไปวิ่งราวทรัพย์หรือหลังก่อเหตุแล้ว ส่วนเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายนั้นยังไม่ทราบเส้นทางที่แน่ชัดว่าหลังจากนำรถมาจอดทิ้งไว้บริเวณนี้แล้วจะหลบหนีเข้าป่าไปหรือไม่ ซึ่งยังต้องรอตรวจสอบร่องรอยเบาะแสที่แน่ชัด

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนพอทราบแล้วว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เป็นใครบ้าง แต่ยังไม่สามารถไประบุได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุหรือไม่ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวจากการตรวจสอบทราบแล้วว่าเป็นของผู้ใด แต่เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามได้ทั้งเจ้าของรถ และผู้ใช้รถ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นเจ้าของเป็นใช้รถเองหรือไม่

ส่วนร่องรอยการชนด้านข้างตัวรถที่พบในขณะนี้เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นขณะขับรถหลบหนีออกมาจากห้างที่ก่อเหตุ แต่ยืนยันได้ว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แต่ในส่วนของบุคคลที่ก่อเหตุตอนนี้จะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบความเชื่อมโยงก่อนว่าใช้บุคคลตามที่สันนิษฐานหรือไม่ โดยหลังจากทำการตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกนำมาจอดไว้แล้วก็จะได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจ และในส่วนของที่เกิดเหตุได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่มีการปิดกั้นพื้นที่และส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอีกทางหนึ่ง

จากนั้นเวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา เชียงใหม่ นิวส์ ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังคุมตัวไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจสอบเบาะแสรอยเลือด

หลังจากนั้นเวลา 21.00 น. เชียงใหม่ นิวส์ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า พบมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีก 1 รายกำลังนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภูพิงค์ฯ ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทีมโรยตัวหาร่างผู้เสียชีวิตจากคดีนี้ บริเวณศาลาริมทาง ดอยสุเทพ รายละเอียดคืบหน้า จะรายงานให้ทราบต่อไป

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่