หน้าแรก > อาชญากรรม

ไรเดอร์หนุ่มสุดห้าว ถีบรถเก๋งข่มขู่คู่กรณี ตกกลางคืน ไล่ทำร้ายคน บอกตำรวจอยากติดคุกเพื่อนรออยู่ ก่อนส่งตรวจร่างกาย

วันที่ 11 มิถุนายน 2024 เวลา 15:25 น.


เมื่อเวลา 04.48 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ขณะที่ ร.ต.ต.อนัน รักษาภักดี เจ้าหน้าที่ประจำวัน สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ขณะกำลังปฎิบัติอยู่บนโรงพัก ได้มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อยืด สีดำ เดินขึ้นมาแจ้งว่า เมื่อตอนกลางวัน (10 มิ.ย. 67) ได้ไปก่อเหตุทำลายรถชาวบ้าน ตนได้บอกว่าตำรวจยังจับกุมตัวไม่ได้ ให้รอร้อยเวรออกหมายเรียกมาสอบก่อนตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ชายวัยรุ่นไม่เชื่อฟัง และได้ลงไปห้องสายตรวจแต่พกมีดไปด้วย ทางตำรวจสายตรวจได้ยึดมีดเอาไว้ แล้วว่ากล่าวให้กลับที่พัก แต่ไม่ยอมกลับ เดินย้อนกลับขึ้นมาบนโรงพักอีก ซึ่งชายดังกล่าวบอกว่าจะนอนโรงพักให้ได้ บอกว่าที่บ้านไม่มีแอร์ อยากติดคุกเพื่อนรออยู่ในเรือนจำเยอะ ก่อนจะออกจากโรงพักไปต่อยพนักงานร้านสะดวกซื้อกับลูกค้าภายในร้าน ตรงท่าน้ำนนทบุรี ข้างโรงพัก

ก่อนที่พนักงานร้านสะดวกซื้อกับลูกค้าที่ถูกต่อย จะพากันมาโรงพักพร้อมชายเสื้อดำที่ก่อเหตุ แล้วมาโต้งเถียงกันอีกรอบ โดยชายวัยรุ่นได้ท้าผู้เสียหายกล้าแจ้งความหรอ ก่อนจะเดินออกไปใช้รองเท้าปาใส่ผู้เสียหาย ก่อนที่พนักงานร้านสะดวกซื้อจะแจ้งความ ตำรวจจึงได้จับกุมนำตัวเข้าห้องขัง

หลังจากนั้นได้ตรวจสอบประวัติพบว่า ชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ที่อยู่เขตดุสิต มีหมายจับศาลอาญา ที่ จ.267/2563 ข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เหตุเกิดพื้นที่ สน.บางเขน จึงได้ประสาน สน.บางเขน ให้ทราบ จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 15.26 ได้มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่า ไรเดอร์หัวร้อนทุบรถเก๋ง เนื่องจากไม่พอที่ถูกขับปาดหน้า

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี กล่าวว่า เมื่อวาน (10 มิ.ย.67) ตนพร้อมด้วยภรรยาและลูกชายวัย 8 เดือน ไปกินข้าวร้านอาหารภายในกระทรวงสาธารณสุข หลังจากกินเสร็จ ได้ขับรถออกเพื่อกลับบ้าน ปกติจะออกทางประตูด้านหน้าถนนติวานนท์เพื่อไปทางแคราย แต่ตนอยากออกทางด้านซอยศิริชัยหรือ ซอยกรุงเทพนนท์ 12 แต่ตนไม่ชินทางเลยกลายเป็นว่าหลงทาง ตนเลยวนรถเพื่อจะกลับเข้ากระทรวงสาธารณสุขอีกรอบ แต่ประตูปิดเลยวนกลับไปซอยศิริชัย

สักพักเห็นคู่กรณีสวมชุดไรเดอร์ ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังมาประมาณ 2 เมตร ตนจึงเบี่ยงรถให้เขาไป พอเขาแซงหน้าไปแล้วเขาหยุดชะลอรถนิดนึง แล้วเขาก็ทำท่ายกมือให้นิ้วกลางเหมือนเขาโมโหเหมือนตนไปขับรถปาดหน้าเขา ตนไม่ได้ปาดหน้าและยกมือไหว้ขอโทษเขาแล้ว 4 ครั้ง รถตนกระจกใสเขาน่าจะเห็นว่าตนยกมือไหว้ขอโทษ เขาก็ขับรถไปข้างหน้าแล้ว จุดแรกที่ชนตรงโกดังสีน้ำเงินในซอยศิริชัย ตนก็ขับรถไป แต่เหมือนเขาจะวนรถกลับมาเจอตนอีกรอบ ที่นี้เขาเอารถจอดขวางหน้ารถเลย ตนก็ไปไหนไม่ได้ แฟนกับลูกก็อยู่ในรถ แล้วคู่กรณีได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ชนด้านหน้ารถตน 4 ครั้ง จนแผ่นป้ายทะเบียนหลุด ตนก็รีบถอยรถแล้วขับหนีออกไปทางปากซอยกรุงเทพนนท์ 12 แล้วคู่กรณีก็ขับตามมา แฟนได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 ตอนชนครั้งแรกไม่ได้ถ่ายคลิปไว้เพราะไม่คิดว่าจะเอาเรื่องเพราะแค่นิดเดียว

จนรอบสองตนจอดรถปากซอย เขาขับตามมาแล้วยืนป้ายทะเบียนให้เหมือนจะให้ตนเปิดกระจก แต่ตนไม่ยอมเปิดเพราะดูแล้วคงไม่หวังดีหรอก ถ้าเปิดไปคงโดนแน่ เขาก็โมโหปาแผ่นป้ายทะเบียนไปด้านหน้ารถ แล้วเขาก็เดินไปกระทืบแผ่นป้ายทะเบียนซ้ำ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นเยอะและมีตำรวจนอกเครื่องแบบ เขาน่าจะออกเวรไปแล้วเดินเข้ามาช่วยและก็วิทยุแจ้งไปสถานีตำรวจให้ ระหว่างนั้นคู่กรณีได้เข้ามากระทืบหน้ารถตนอีกและพังกระจกที่เห็นตามคลิปกระทืบกระจกด้านขวาจนหัก พอเขาระบายอารมณ์เสร็จ ตนก็ตระโกนบอกว่าในรถตนมีลูกนะ แล้วเขาก็พูดว่ารู้แล้วทำไมขับรถแบบนี้ แล้วเขาก็หยิบไม้ออกมาโยนใส่ตระกร้าหน้ารถตนรู้เลยว่าคือมีด แล้วเขาก็พูดว่าผมจะไปวิ่งงานจะไปส่งแทนเขาไหมละ แล้วเขาก็ขับรถออกไปเลย หลังจากนั้นตำรวจได้แนะนำให้ไปแจ้งความ

น.ส.ฝน (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ภรรยา กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความตำรวจ และนำคลิปให้ตำรวจสืบสวนดู ก่อนตำรวจสืบสวนจะโทรศัพท์ไปหาตำรวจคนที่เข้ามาช่วยเหลือ และทราบว่าคนก่อเหตุอยู่แถวนั้น ล่าสุดได้รับแจ้งจากทางตำรวจว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วและมีคดีอื่นด้วย ตนอยากฝากเตือนคนอื่นหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรลงจากรถเพราะเขามีมีดด้วยอาจเกิดผลเสียได้

ต่อมาเวลา 11.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2567 หลังตำรวจจับกุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพนักงานร้านสะดวกซื้อ ดำเนินคดีและตรวจสอบพบหมายจับคดี ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.บางเขน หลังจากการประสานไปยังสน.บางเขน แล้ว ได้แจ้งว่าคดีของนายเอ คดีได้สิ้นสุดไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ถอนหมายจับออกจากระบบ หลังจากนี้ตำรวจจะส่งตัว ผู้ต้องหา ไปตรวจสภาพจิต ที่ ร.พ.พระนั่งเกล้า เพื่อขอผลยืนยัน ถึงจะดำเนินคดีได้ หากพบว่าสภาพจิต ไม่ปกติจะส่งตัวไปรักษาให้หายก่อนนำกลับมาดำเนินคดีต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม