ศาลอาญา อนุมัติหมายจับ “บิ๊กโจ๊ก” คดีสมคบ-ร่วมฟอกเงิน เผย เหตุผลมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำผิด-จงใจหลบเลี่ยงหมายเรียก ถึง 3 ครั้ง ล่าสุด “บิ๊กโจ๊ก” เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วที่ สน.เตาปูน

วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญารัชดา พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายื่นคำร้อง ขอออกหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามที่สมคบกัน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542  มาตรา 5,9,10 และศาลอาญาพิพากษา ให้ออกหมายจับ พร้อมกับมีผลในทันที โดยหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ก็สามารถแสดงหมายจับและจับกุมตัวได้ทันที

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.45 น. พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว ยืนยันว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้ว ในฐานความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน

เมื่อถามว่าจะนำหมายจับไปให้บิ๊กโจ๊กเมื่อไหร่นั้น พ.ต.ท. พ.ต.ท.สราวุธ ระบุว่า “ขณะนี้หมายจับมีผลบังคับใช้แล้ว ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย”

“บิ๊กโจ๊ก” เข้ามอบตัวแล้ว ที่ สน.เตาปูน ตามหมายจับ 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลฟาร์ด ทะเบียน งค 51 สงขลา โดยจอดอยู่ที่บริเวณหน้า สน.เตาปูน เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึง ทีมตำรวจติดตาม ได้ย้ายรถไปจอดด้านหลัง สน.เตาปูน และขอความร่วมมืองดบันทึกภาพ ระหว่างนี้ คาดว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำลังพบพนักงานสอบสวนอยู่บริเวณชั้น 1โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด