กู้ภัยเมืองเบตง นำร่างชายเสียชีวิตมัดซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นำลงจากเขาสูงในสวนยาง เพื่อส่งให้แพทย์ชันสูตร

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพกู้ภัยเบตง ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 206 ซึ่งอยู่ภายในสวนยางพาราบริเวณว่านยี่ไร่ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เบตง, มว.ฉก.นปพ.32, แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลเบตง

เจ้าหน้าที่เดินทางไปตามถนนสาย 410 ยะลา-เบตง พอถึงบ้าน กม.4 เลี้ยวซ้ายไปตามทางถนนวัดถ้ำภูเขาทอง ประมาณ 3 กม. พบสามแยกเลี้ยวขวาไปตามทางถนนว่านยี่ไร่ ถึงศาลเจ้าว่านยี่ไร่ จอดรถยนต์ลงเดิน บ้างก็ขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อนรถจักรยานยนต์ชาวบ้านในพิ้นที่ ขี่ไปตามถนนภายสวนยางพาราข้างศาลเจ้า ขึ้นเขาสูงชัน ประมาณ 1 กม. ก็พบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น บริเวณข้างบ้านซึ่งเป็นที่ทำครัว พบนายสิงห์ อายุ 64 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนแคร่

สอบถามนายประพาส อายุ 56 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตและเป็นผู้พบศพเป็นคนแรก ทราบว่า นายสิงห์ มีอาชีพรับจ้างถางป่า ชอบกินเหล้าขาว และสูบกัญชา ช่วงเที่ยงกินข้าวด้วยกับบนแคร่ที่นายสิงห์นอนเสียชีวิต นายสิงห์บ่นว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายมีอาการเจ็บหน้าอก ตนจึงขี่รถออกมาซื้อยาให้ พอกลับมาก็พบว่านอนเสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผลตามร่างกาย บริเวณรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และข้าวของสูญหาย จึงคาดว่าเสียชีวิตจากอาการป่วย จึงให้อาสาสมัครกู้ภัยนำศพส่งโรงพยาบาลเบตง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งการเคลื่อนย้ายศพก็เป็นไปอย่างยากลำบากทุลักทุเล เนื่องจากเส้นทางเป็นทางแคบรถจักรยานยนต์ไม่สามารถวิ่งสวนกันได้ ทางก็ชัน ข้างทางบางช่วงก็เป็นหุบเหว อาสาสมัครกู้ภัยได้ห่อศพด้วยผ้าขาว 
จากนั้นก็นำศพขึ้นนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ แล้วใช้ผ้าขาวผูกมัดศพติดกับอาสาสมัตรกู้ภัยที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ โดยขี่ลงมาช้าๆ มีคนคอยดึงจับท้ายรถจักรยานยนต์ และประคองจับศพไม่ให้เอียงไปด้านซ้ายหรือขวา เพราะอาจจะทำให้รถล้มกลิ้งลงเหวทั้งคนขี่และศพได้ โชคดีที่วันนี้ในพื้นที่ฝนไม่ตก ไม่เช่นนั้นการเคลื่อนย้ายศพลงจากเขาคงจะยากลำบากและทุลักทุเลมากกว่านี้อีก

Cr. ทีมข่าวเบตง