หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 รวบแก๊งสแกมเมอร์จีนเทา วิดีโอคอลขู่หนุ่ม 19 สั่งทุบตู้เซฟแม่ขนทรัพย์สินไปตรวจสอบ เสียหายกว่า 6.8 ล้าน

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15:46 น.


ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 รวบแก๊งสแกมเมอร์จีนเทา วิดีโอคอลขู่หนุ่ม 19 สั่งทุบตู้เซฟแม่ขนทรัพย์สินไปตรวจสอบ เสียหายกว่า 6.8 ล้าน

24 พ.ย.68 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 รวบแก๊งสแกมเมอร์จีนเทา วิดีโอคอลขู่หนุ่ม 19 สั่งทุบตู้เซฟแม่ขนทรัพย์สินไปตรวจสอบ เสียหายกว่า 6.8 ล้าน

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นหนุ่มนักศึกษา อายุ 19 ปี ของมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือส่วนตัวอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ให้กลัวว่าผู้เสียหายมีความผิดต้องถูกดำเนินคดี แล้วมิจฉาชีพได้สั่งให้แอดไลน์ แล้วส่งรูปภาพ และเอกสารราชการปลอมต่างๆ ของทางราชการหลายหน่วยงาน ผู้เสียหายกลัวว่าตนเองจะถูกดำเนินคดีแล้วอาจทำให้แม่เดือดร้อนไปด้วย จึงได้หลงเชื่อแล้วทำตามที่คนร้ายสั่ง

โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ลาเรียนในช่วงบ่าย จากนั้นมิจฉาชีพสั่งให้เปิดที่พักเพื่อให้อยู่เพียงลำพังเพื่อสะดวกในการหลอกลวงและไม่ให้คนอื่นรู้เห็น แล้วได้บังคับให้วิดีโอคอลตลอดเวลา โดยคนร้ายขู่ว่า หากวิดีโอคอล หลุด 5 วินาที หรือ 10 วินาที จะถูกโดนดำเนินคดีทันที จากนั้นได้สั่งให้ผู้เสียหายโอนเงินรวมทั้งนำทรัพย์สินไปส่งให้ตรวจสอบ โดยผู้เสียหายได้รื้อทรัพย์สินในตู้เซฟของแม่แล้วนำทรัพย์สิน 7 รายการ ได้แก่ ทองคำแท่ง น้ำหนักรวม 50 บาท, สร้อยทองคำรูปพรรณ จำนวน 3 เส้น, แหวนทองฝังเพชร จำนวน 7 วง, กำไลข้อมือฝังเพชร จำนวน 1 ชิ้น, สร้อยทองคำฝังเพชร จำนวน 1 ชิ้น, พระเหลี่ยมกรอบทองคำ จำนวน 5 องค์ และ แหวนทองคำทับทิม จำนวน 1 วง เดินทางจากพื้นที่สมุทรปราการ ไปวางให้คนร้ายในพื้นที่ เขตเทศบาลบางพลับ จ.นนทบุรีและมีการโอนเงินไปให้คนร้ายอีก 3 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6.8 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าว ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐาน ตามจุดต่างๆ รวมทั้งสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่ง สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วหลายราย โดยล่าสุด สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนได้ 1 ราย อายุ 31 ปี หนึ่งในขบวนการหลอกลวงครั้งนี้ โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ เขตห้วยขวาง กทม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่ามีคนร้ายเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ราย เป็นคนจีนทั้งหมด รวมทั้งมีชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้การช่วยเหลือ จัดหาที่พัก หายานพาหนะและนำทรัพย์สินไปขาย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาชาวจีน  ได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 2 ราย และสามารถตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน ได้หลายรายการ เช่นทองคำแท่ง หนัก 20 บาท จำนวน 2 แท่ง, หนัก 10 บาท จำนวน 1 แท่ง , ทองหลอม 2 ก้อน รวมมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA สีดำ จำนวน 1 คัน และรถยนต์ ยี่ห้อ mercedes benz สีดำ จำนวน 1 คัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยเร็วต่อไป

 

ข่าวยอดนิยม