วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23:34 น.
เปิดปฎิบัติการ Hybrid Scam ลวงรักชายวัยเกษียณ หลอกลงทุน ความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดย พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท. , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.2 บก.ปอท., กก.1 บก.ปอท. , กก.4 บก.ปคบ., กก.5 บก.ปคม., กก.12 บก.รน., บก.ป. และ ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 12 ราย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, สมคบกันโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”
คดีนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตคณบดี มหาวิทยาลัยชื่อดัง รู้จักกับหญิงสาวหน้าตาดีใช้บัญชีสื่อโซเชียลปลอม โพสต์ในลักษณะต้องการหาคนพูดคุยคลายเหงา ผู้เสียหายเกิดความสนใจติดต่อไปหาจากนั้นหญิงสาวชักชวนติดต่อพูดคุยกันผ่านไลน์เรื่อยมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนจนผู้เสียหายรู้สึกชอบพอไว้เนื้อเชื่อใจ จากนั้นหญิงสาวชักชวนร่วมลงทุนหุ้นทองคำผ่านเว็บไซต์ปลอม
อ้างว่าจะช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนให้ ก่อนขอข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ – นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และให้ผู้เสียหายตั้งรหัสผ่านให้ อ้างว่าจะนำไปลงทะเบียนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนรวม 10 ครั้งเป็นเงินทั้งหมดเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อคนรอบข้างทราบเรื่องพยายามห้ามปรามแต่ผู้เสียหายไม่เชื่อ ยังคงพูดคุยกับหญิงสาวและโอนเงินไปลงทุนต่อเนื่องรวม 10 ครั้ง ญาติ ๆ จึงร้องเรียนมายังตำรวจ กก.2 บก.ปอท.
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนรวมกันเกือบ 20 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นในพื้นที่จรัญสนิทวงศ์ กทม. มีการรวมกลุ่มกันเพื่อรับงานเบิกถอนเงินสดให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในสปป.ลาว โดยมี น.ส.เกด (นามสมมุติ) สัญชาติลาว และนายรง (นามสมมุติ) แฟนหนุ่ม เป็นหัวหน้าแก๊งจัดหาบัญชีม้า ควบคุมการเบิกถอนเงินสด และรวบรวมเงินสด เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 23 ราย เป็นคนไทย 18 ราย และคนลาว 5 ราย ก่อนนำกำลังจับกุมได้ 12 รายดังกล่าว
สอบสวน น.ส.เกด (นามสมมุติ) สารภาพว่า รับจ้างเบิกถอนเงินสดจากกลุ่มชาวลาว ซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในประเทศลาว โดยเงินสดที่เบิกถอนมาจะนำไปฝากบัญชีธนาคารต่างๆ ตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์สั่งการ ได้ค่าจ้าง 10% ของจำนวนเงินที่เบิกถอน โทำมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งหมดตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





