หน้าแรก > อาชญากรรม

บุกจับ 2 กรรมการ บริษัทนำเข้าส่งออกเครื่องยนต์ หลังร่วมกันออกใบกำกับภาษีปลอม รัฐเสียหายกว่า 1,200 ล้านบาท

วันที่ 6 ตุลาคม 2568 เวลา 03:50 น.


บุกจับ 2 กรรมการ บริษัทนำเข้าส่งออกเครื่องยนต์ หลังร่วมกันออกใบกำกับภาษีปลอม สร้างความเสียหายรัฐกว่า 1,200 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์  ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายนัน (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี  จับกุมได้บริเวณลานจอดรถมหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ และ นายสัน อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 จับกุมได้ที่ หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลทางเกวียน  อำเภอแกลง  จังหวัดระยอง เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4( 3) แห่งประมวลรัษฎากร” 

สืบเนื่องด้วยกองตรวจสอบภาษีกลาง (ตส) พร้อมด้วยกองสืบสวนและคดีกรมสรรพากรตรวจพบว่า บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการนำเข้า ส่งออกจำหน่ายรถยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องกลมือ รวมทั้งอะไหล่ ซึ่งได้มีการจดทะเบียนที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่ ซอยลาดพร้าว 87 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร  
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในช่วงกันยายน 2556 ถึงมกราคม 2558 มีนายสัน (นามสมมุติ) เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท และในช่วงสิงหาคม 2560 ถึงปัจจุบัน มีนายนัน (นามสมมุติ) เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท

ได้มีพฤติการณ์ออกใบกำกับภาษีให้กับกลุ่มผู้ค้าของเก่าจำนวนหลายรายผิดปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษีพบหลักฐานเช่นสำเนาใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีที่ออกโดยบริษัทดังกล่าว ให้กับกลุ่มผู้ค้าของเก่า ที่เจ้าหน้าที่พบในขณะเข้าตรวจค้นสถานประกอบการกลุ่มผู้ค้าของเก่าเหล่านั้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2558  พบเอกสารสำเนาใบกำกับภาษี สำหรับเดือนภาษี ตุลาคม 2557 ถึงเดือนสิงหาคม 2558 จำนวน 23 ฉบับ  และ ยังพบข้อมูลต้นฉบับใบกำกับภาษีดังกล่าว ออกให้กับกลุ่มบริษัทค้าของเก่า สำหรับเดือนภาษีพฤษภาคม 2559 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2559 อีก จำนวน 656 ฉบับ ซึ่งสรรพพากรประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมเบี้ยปรับ รวมเป็นจำนวนเงิน 1,217,604,590.33 บาท

ต่อมาจึงได้ตรวจสอบไปยังบริษัทดังกล่าว โดยทำหนังสือเชิญพบและนำเอกสารมาชี้แจงแต่บริษัทไม่เข้ามาพบและไม่แจ้งเหตุ ขัดข้อง อีกทั้งได้ไปตรวจสอบสถานประกอบการบริษัท มีลักษณะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น พบว่าบริษัทปิด ไม่มีการประกอบกิจการ ไม่มีสินค้า ไม่มีพนักงานทำการหรือบุคคลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้  ซึ่งน่าเชื่อว่าบริษัทไดเร็คฯ น่าจะไม่ได้ประกอบกิจการจริง แต่ได้มีการออกใบกำกับภาษีโดยทุจริตให้กับบริษัทอื่นๆเพื่อนำไปใช้การเครดิตภาษี  เป็นการออกใบกำกับภาษีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2560 สรรพากรได้ทำหนังสือแจ้งให้มาพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกอบกิจการ ก็ไม่มาพบเจ้าพนักงาน ไม่มีหลักฐานเอกสารใดมาชี้แจง เชื่อว่าไม่ได้มีการซื้อขายกันจริง ทางสรรพากรจึงขึ้นรายชื่อบริษัทไดเร็คฯ เป็นผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วนกฎหมาย ประเภท “ไม่ต้องสอบยัน”เจ้าพนักงานกองสืบสวนและคดี กรมสรรพากรจึง ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ  เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายนายนัน (นามสมมุติ) กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะนิติบุคล และ นายสัน (นามสมมุติ) กรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัทไดเร็ค มาร์เก็ตติ้ง เอ็กซเพรส จำกัด ในขณะนั้นในฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้รวบรวมหลักฐานที่ทางสรรพากรเข้ามาร้องทุกข์ และทำการขอหมายจับต่อศาลอาญาให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมาย 
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการ2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ติดตามและสามารถจับกุมตัวนายนายนัน (นามสมมุติ) ตามหมายจับดังกล่าวได้ ที่พื้นที่กรุงเทพฯ และ จับกุมนายสัน (นามสมมุติ) ได้ที่ในพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง  จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

 

 

ข่าวยอดนิยม