วันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 03:30 น.
ตม.1 ร่วม ป.ป.ส. ปิดเกมพ่อค้ายาข้ามชาติผิวสี หนีหมายจับตำรวจสากล ลอบส่งยาเสพติดเกือบ 20 กิโล ขายในเกาหลีใต้ บุกค้นห้องพบยาเสพติด พ่วงอาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนเกือบร้อยนัด อ้างปืนมีเพื่อนคนไทยมาจำนำส่วนยาเสพติดมีเพื่อนมาเสพแล้วลืมเอากลับ
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน รอง ผบก.ตม.1 ,พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1
มอบหมายชุดปฏิบัติ นำโดยพ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ, พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 นายอนุสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา ,น.ส.พิชญา มณีนิล ,น.ส.สุธินี เตชาวงศ์ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
จับกุม นายเอม (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาวแคเมอรูน ตามหมายจับตำรวจสากล ในฐานะพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลอบส่งยาเสพติดน้ำหนัก 19 กก. ผ่านบริษัทขนส่งไปจำหน่ายในเกาหลีใต้ หลบหนีหมายจับโดยซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครชั้นใน มาเป็นเวลากว่า 1 ปีจับได้ที่ ริมถนนเพชรบุรี ใกล้โรงแรมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เบื้องต้นนั้น นายเอม สามารถพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว รับแต่โดยดี อยู่ในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2559 จากการตรวจค้นห้องพัก พบอุปกรณ์เสพยา บริเวณชั้นวางทีวี ปืน 9 มม. 1 กระบอก มีเลขทะเบียนซ่อนอยู่ในซองหนังพกใน พบปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้อง พร้อมชุดลั่นไกมีเข็มแทงชนวน อีก 2 กระบอกพร้อมแม็กกาซีนดัดแปลง กระสุนปืนขนาด 9 มม., 11 มม. และ .22 นิ้ว รวมเกือบ 80 นัด มีทั้งที่บรรจุในแม็กกาซีนขึ้นลำพร้อมใช้ และซุกซ่อนตามจุดต่างๆ ในห้องพัก
นอกจากนี้ในกระเป๋าและถุงต่างๆที่อยู่ภายในห้องเจ้าหน้าที่ยังพบ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนัก 2 กรัมเศษ ยาอีหรือ ๓,๔ เมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1 ซอง น้ำหนัก 1 กรัม เมทแอมเฟตามีนสีเขียวมิ้นอีก 1 เม็ด
นายเอม ให้การอ้างว่า ปืนที่พบไม่ใช่อาวุธปืนของตน เป็นของเพื่อนคนไทยี่ได้มาจำนำไว้ ส่วนยาเสพติดนั้นไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของเพื่อนคนไทยอีกกลุ่มที่เข้ามาใช้ห้องของตนเป็นสถานที่มั่วสุมเสพยา และลืมนำกลับไปด้วย
ชุดจับกุมจึงได้พาตัวนายเอม ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดโดยละเอียดที่โรงพยาบาลผลการตรวจสอบพบว่า ผลเป็นบวก(Positive) พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของผู้ถูกจับ ซึ่งผู้ถูกจับยอมรับว่าตนเคยเสพยาไอซ์จริง แต่ไม่ได้เสพมา 1 วันแล้ว
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)” และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบแล้ว โดย ผู้ถูกจับสามารถรับฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
