24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2567

>> “เกาะช้าง” ติดอันดับ 2 สถานที่พักผ่อนเขตร้อนชื้นที่ดีที่สุดในโลก

10.00 น. นายเนรมิต สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับการท่องเที่ยวไทย เมื่อเกาะช้าง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่พักผ่อนเขตร้อนชื้นที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก โดยนิตยสาร Travel + Leisure สื่อชั้นนำด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ จัดอันดับครอบคลุมจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลก

นายเนรมิต กล่าวอีกว่า สำหรับเกาะช้าง “อัญมณีแห่งอ่าวไทย” ได้รับการยกย่องให้อยู่ในอันดับสูงสุดร่วมกับจุดหมายปลายทางอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างพาลาวัน (ฟิลิปปินส์) และบาหลี (อินโดนีเซีย) สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกาะช้างและเกาะบริวาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศไทย ประกอบด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งป่าดิบชื้น น้ำตก ชายหาด และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงามของธรรมชาติผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า ดำน้ำดูปะการัง และล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน สำหรับการจัดอันดับครั้งนี้ มัลดีฟส์ครองอันดับ 1 ตามด้วยเกาะช้างของไทยในอันดับ 2 และหมู่เกาะฮาวายของสหรัฐอเมริกาในอันดับ 3 การติดอันดับของเกาะช้างครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความสวยงามและเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวไทยในสายตาชาวโลก ผลการจัดอันดับนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาะช้างและประเทศไทยโดยรวม

>> "หมูเด้ง" มอบเงิน 5 แสนบาท ช่วยเหลือ 10 โรงเรียนประสบอุทกภัยในเชียงใหม่

12.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย, นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร และนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ช่วยเหลือโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยจำนวน 10 โรงเรียน ในจังหวัดเชียงใหม่

ประกอบด้วย 
1.โรงเรียนวัดเสาหิน อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
2.โรงเรียนกาวิละวิทยาลัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
3.โรงเรียนวัดวังสิงห์คำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
4.โรงเรียนเทศบาลวัดศรีดอนชัย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
5.โรงเรียนเทศบาลวัดป่าแพ่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
6.โรงเรียนกาวิละอนุกูล อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
7.โรงเรียนวัดหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ 
8.วิทยาลัยนาฏศิลป์ เชียงใหม่ 
9.โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง อำเภอเมืองเชียงใหม่ และ 
10.โรงเรียนบ้านเมืองกึ๊ด ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง 
โดยมี นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง พร้อมผู้แทน และเด็กนักเรียนแต่ละโรงเรียน รับมอบเงินช่วยเหลือ เพื่อนำบูรณะซ่อมแซมและฟื้นฟูโรงเรียน

โดย องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการ "หมูเด้ง" ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ เพื่อสนับสนุนการดูแลชีวิตและสวัสดิภาพของสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่

>> ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ “ตชด.ผู้กล้า” ด.ต.บรรเจิด พุทธเจริญ ตชด.41 มอบธงไตรรงค์ สัญลักษณ์ความกล้าหาญ เสียสละ ปูนบำเหน็จเลื่อนยศ พ.ต.ท.

14.00 น. ที่วัดเขาพิทักษ์ ( วัดเขาพัง ) ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผู้ช่วย ผบ.ตร. ) เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ดาบตำรวจบรรเจิด พุทธเจริญ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 ปฏิบัติราชการรองผู้บังคับหมวด เฉพาะกิจ ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 9221 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบยิงฐานปฏิบัติการ ตชด. ต.บาราโหม อ.เมือง จว.ปัตตานี เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รรท.ผบช.ตชด. ) พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รอง ผบช.ตชด. ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทหาร ส่วนราชการในพื้นที่ ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนและพี่น้องประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ ด.ต.บรรเจิดฯ จัดขึ้นอย่างสมเกียรติเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อครอบครัวของ ด.ต.บรรเจิด พุทธเจริญ อย่างหาที่สุดมิได้

โอกาสนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้พูดคุยให้กำลังใจแก่ครอบครัว ด.ต.บรรเจิด พร้อมมอบธงไตรรงค์ เพื่อแสดงความกล้าหาญและเสียสละต่อประเทศชาติ พร้อมมอบเงินสวัสดิการ เงินบำรุงขวัญและเงินช่วยเหลือให้แก่ทายาท การเสียชีวิตของ ด.ต.บรรเจิด พุทธเจริญ นับว่าเป็นความสูญเสียของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นการสละชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจะเสนอพิจารณาปูนบำเหน็จเลื่อนยศ เป็น พ.ต.ท.

>> ตำรวจสอบสวนกลาง เผยยอดผู้เสียหาย "ดิไอคอน กรุ๊ป" ทั่วประเทศ 10 วัน ทั้งกองปราบฯ-สถานีตำรวจท้องที่ ทะลุ 4,583 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 1,357 ล้าน

15.20 น. ยอดผู้เสียหายหลอกลวงลงทุน ของ บริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 345 ราย มูลค่าความเสียหาย 99.7 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10 – 19 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 15.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,702 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 933 ล้านบาทเศษ

ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 1,881 ราย มูลค่าความเสียหาย 424 ล้านบาทเศษ โดยกองบัญชาการที่มีผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์มากที่สุด ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 536 ราย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 256 ราย และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 221 ราย ตามลำดับ น้อยที่สุด คือ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 26 ราย

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งประชาสัมพันธ์กรณีมีข้อสงสัย ต้องการแจ้งเบาะแส ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีหลอกลวงขายทองรูปพรรณ ของ น.ส.กรกนก-นายกานต์พล และ กรณีการขายตรงของบริษัท“ดิไอคอนกรุ๊ป” สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วน 1599

>> อัปเดต เด็กวัย 14 เหยื่อบัสไฟไหม้ อาการดีขึ้นมาก แต่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ

15.44 น. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ แถลงการณ์เรื่อง ผู้ป่วยเด็กหญิงวัย 14 ปี ได้รับผลกระทบจากกรณีรถบัสเกิดเหตุเพลิงไหม้ (ฉบับที่ 17)

สืบเนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถบัสเกิดเหตุเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และเข้ารับการรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น

จากการตรวจรักษาของวันที่ 19 ตุลาคม 2567 พบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้โดยรวมดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด สามารถทำกายบริหาร ยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก และข้อนิ้วมือ เพื่อป้องกันข้อติดได้ดี ด้านจิตใจ ผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ สามารถนอนหลับได้ปกติ ผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับบ้านต่อไป

>> สืบนครบาล รวบหนุ่มอาสากดเงินที่ตู้ATMให้คนเมา วิ่งหลบหนีไปพร้อมโทรศัพท์และเงินสดของผู้เสียหาย

17.30 น. ตำรวจสืบนครบาล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 21 กันยายน 2566 ข้อหา“ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” จับกุมได้ที่ พื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จ.นครปฐม

พฤติการณ์สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 01.00 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปและได้ทำการถอนเงินจากแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 50,000 บาท แล้ววิ่งหนีไป เหตุเกิดที่ ตลาดนัดธรรมะสุขใจ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

สอบถามผู้ต้องให้ ให้การว่าตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุได้เดินมาพบผู้เสียหายซึ่งกำลังอยู่ในลักษณะเมาสุรา ได้ฝากให้ผู้ต้องหาไปกดเงิน จากตู้เอทีเอ็มมาให้ โดยเป็นการกดเงินแบบไม่ใช้บัตร จากนั้นจึงได้กดรหัสเข้าแอปบัญชีธนาคารให้ผู้ต้องหาดู ผู้ต้องหาจึงได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม จากนั้นจึงได้หลบหนีไปพร้อมโทรศัพท์มือถือและเงินสดของผู้เสียหายเลย ภายหลังการจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> ผบ.ตร.กำชับเร่งจับกุม 14 ผู้ต้องหาคดีตากใบ หลังอินเตอร์โพลออกหมายแดง

18.33 น. ผบ.ตร. สั่งการมอบ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผบ.ศปก.ตร.สน ดำเนินการ เรื่องการออกหมายตำรวจสากล และ เร่งรัดติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จว.นราธิวาส โดย พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้เป็นประธานในการประชุม ติดตามจับกุมจำเลยและผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จว.นราธิวาส (ครั้งที่ 2) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ในที่ประชุม กองตำรวจต่างประเทศ(ตท) ได้ รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ว่า ขณะนี้องค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ได้อนุมัติออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) จำเลยและผู้ต้องหา จำนวน 14 ราย เรียบร้อยแล้ว

พล.ต.ท.สำราญ  จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วย ติดตามความเคลื่อนไหวผู้มีหมายจับ อย่างต่อเนื่อง และเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้มีหมายจับอย่างเต็มที่ภายในกำหนดอายุความ อีกทั้ง กำชับ ให้ บช.น. ดำเนินการเฝ้าระวังทางการข่าว โดยใช้มาตรการเช่นครั้งการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค(APEC 2022) ในการคัดกรองบุคคล และวางแผนการรักษา ความปลอดภัยในเขตกรุงเทพมหานครนับแต่บัดนี้จนถึงเทศกาลปีใหม่ โดยให้ประสานข้อมูลทางการข่าวกัน อย่างใกล้ชิด และ ประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วน อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ พล.ต.ท.สำราญฯยังยืนยันว่า ท่าน ผบ.ตร. กำชับ ให้ตำรวจผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ อย่างเต็มที่ ตามสั่งการของ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป

>> รวบพ่อค้าไก่ย่างวิ่งราวทองหนัก 6 บาท ย่านบางใหญ่ อ้างเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบร่วมแสนบาท

20.00 น.วันที่ 19 ตุลาคม 67 ร.ต.ท.วสุกิตต์ ปานรัตน์ รองสว.สอบสวน สภ.บางใหญ่ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายวิ่งราวทรัพย์เป็นสร้อยทองรูปพรรณ 2 เส้น น้ำหนักรวม 6 บาท มูลค่า 255,300 บาท เหตุเกิดภายในร้านห้างเพชรทอง โกลด์เด้น ไนน์ตี้ไนน์ ตลาดบางใหญ่ซิตี้ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุภายในร้านทอง พบนายเจษฎา พนักงานขาย ยังอยู่ในอาการตกใจ ให้ข้อมูลว่า เวลาประมาณ 18.00 น. คนร้ายได้เข้ามาทำที สอบถามราคาทอง แล้วทำทีเลือกทองในร้านก่อนจะกลับออกไป โดยบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมาใหม่ ต่อมา เวลา 19.00 น. คนร้ายได้กลับเข้ามา เลือกสร้อยคอทองคำ เส้นละ 3 บาท จำนวน 3 เส้น พนักงานขายจึงนำออกมาให้เลือกโดยวางไว้ที่ถาดตามปกติ คนร้ายหยิบทองจากถาดขึ้นมาลองสวมคอ 2 เส้น และแกล้งรับโทรศัพท์ โดยทำทีพูดคุยกับแฟนสาว และหันไปแจ้งคนขายว่าให้ช่วยปลดล๊อคประตูร้านให้หน่อยแฟนกำลังจะเข้ามา ทางพนักงานขายหลงเชื่อจึงกดเปิดประตูให้ คนร้ายใช้จังหวะนี้ วิ่งหลบหนีออกจากร้านไป ขึ้นรถจักรยานยนต์ แบบพ่วงข้าง ขับหลบหนีไปทางด้านถนนกาญจนาภิเษก

โดย พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งติดตามคนร้ายตามเส้นทางหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ในซอยวัดโคนอน พื้นที่ตำบลบางแม่นาง อ.บางใหญ่ ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่ก่อเหตุ จึงบุกเข้ารวบตัวได้ คือนายธวัชชัย อายุ 41 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 2 เส้น จาการสอบสวน นายธวัชชัย อ้างว่า ที่ตัดสินใจก่อเหตุเนื่องจากตนเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบร่วมแสนบาท ตนพยายามไปกู้ตามระบบที่ถูกต้องแต่ก็ไม่มีที่ไหนอนุมัติ จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อจะนำเงินมาใช้หนี้ โดยก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวว่า วิ่งราวทรัพย์ จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏกมายต่อไป

>> น้ำป่าไหลท่วม อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รถยนต์ไหลไปกับน้ำ บ้านเรือนเสียหาย ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงเร่งสำรวจความเสียหาย

21.30 น. ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.บ้านไร่ ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรงมาก พัดรถยนต์ไหลไปกับกระแสน้ำ รวมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มีผู้ติดค้างในบ้านจำนวนมาก

โดยเฟซบุ๊กเพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี อัปเดตเมื่อเวลา 23.15 น. สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี วันที่ 19 ต.ค.67 เบื้องต้น

- น้ำท่วม ตั้งแต่ ถนน หน้า โรงเรียนอนุบาลบ้านไร่ จนถึงหน้าวัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของอำเภอ ส่วนหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านไร่ น้ำไม่ท่วม

-น้ำหลากมาจากพุบอน​ ห้วยป่าปก​ สะนำ

-น้ำมา เร็วมาก กั้นกระสอบทรายไม่ทัน ทั้งหน้าและหลัง สสอ.

- อาคาร สำนัก งานน้ำไ​ม่เข้า​ ส่วนบ้านพักท่วมหนักพื้นชั้นล่างประมาณ​ 1 เมตร

- กระแสน้ำไหลแรง คาดว่าใช้เวลาในการท่วมขังไม่นาน ตอนนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ระบุ ระดับน้ำที่ท่วมในเขตชุมชนตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ มอบหมายให้ อำเภอบ้านไร่ เร่งสำรวจความเสียหาย และพื้นที่ประสบภัย และรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย ส่งให้จังหวัด เพื่อประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยฯ และมอบหมายให้ที่ทำการปกครองจังหวัดอุทัยธานี ประสาน อปท.ส่งรถบรรทุกน้ำ พร้อมอุปกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 67 เวลา 00.01 น เป็นต้นไป เพื่อเข้าทำการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ถนน บ้านเรือนประชาชน ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ