หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 กันยายน 2567

วันที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 05:23 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 กันยายน 2567

>> ตำรวจทางหลวงสกัดจับผู้ต้องหา 4 ราย ลอบขนยาไอซ์ 250 กก.

09.10 น. พ.ต.ต.ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันสกัดจับรถต้องสงสัยลักลอบขนยาเสพติด โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย เป็นชาย 3 ราย และหญิง 1 ราย ผู้ต้องหาร่วมกันค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาไอซ์ 250 กิโลกรัม โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และ รถเก๋งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ 1 คัน

สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานีชุดจับกุมนำรถวิทยุออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบรถบรรทุกของกลางมีลักษณะต้องสงสัยเป็นรถหมายเลขทะเบียน จ.ลำปาง วิ่งลงมาตามถนนสายเอเซีย ขาล่อง หมู่ที่ 8 ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้ไล่ติดตาม กระทั่งมาถึงบริเวณหน้า ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. เจ้าหน้าที่สามารถหยุดรถคันดังกล่าวไว้ได้ พบนายวี (นามสมมุติ) เป็นผู้ขับขี่ จึงขอตรวจค้นภายในรถพบมีตะกร้าผลไม้ ปิดบังเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และถุงพลาสติกจำนวนหลายถุง เมื่อตรวจสอบภายในถุงพบยาไอซ์ 250 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในจึงได้ทำการตรวจยึดไว้ พร้อมสกัดจับรถเก๋งซึ่งเป็นรถนำได้ รวบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป

>> ปะทะเดือดกลางเขาแม่อาย ยิงดับ 6 ศพแก๊งค้ายา ยึดของกลางยาบ้า 1.3 ล้านเม็ด

09.50 น. เจ้าหน้าที่รับรายงานจากแหล่งข่าวมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ โดยใช้เส้นทางเดินจากชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเข้ามายังช่องทางธรรมชาติ บ้านห้วยน้ำเย็น ม.4 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

จึงจัดกำลังพล ร้อย.ทพ.3207 ร่วมกับ ร้อย.ทพ.3209 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการลาดตระเวน บริเวณช่องทางธรรมชาติห้วยน้ำเย็น ดอยแหลม บ้านห้วยน้ำเย็น ม.4 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย ตลอดคืน กระทั่งกำลังทหารชุดปฏิบัติการลาดตระเวนตรวจพบบุคคลชายต้องสงสัยประมาณ 7 – 10 คน สะพายกระเป๋าเป้ดัดแปลงไว้ด้านหลัง เดินผ่านเข้ามาในพื้นที่ที่วางกำลังไว้ จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลับถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่ จึงยิงตอบโต้ไปประมาณ 5-10 นาที แต่เนื่องจากการปะทะเกิดขึ้นกลางดึก เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้ ก่อนเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุช่วงรุ่งสาง โดยพบศพขบวนการขนย้ายยาเสพติดประมาณ 6 ศพ ยาเสพติดบรรจุในกระสอบ ยาบ้าประมาณ 1,300,000 เม็ด โดยรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

>> นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แถลงครั้งแรกในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ หลังร่วมประชุมครม.นัดพิเศษ โดยฝาก 4 เรื่องให้ครม.เร่งปฏิบัติ

11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงครั้งแรกในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ หลังเข้าร่วมประชุมครม.นัดพิเศษ ร่วมกับคณะรัฐมนตรี

โดยในการประชุมครม.นัดพิเศษ นายกฯ มีเรื่องขอฝาก ครม. 4 เรื่อง แต่ต้องขอแสดงความยินดีกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีและขอให้ทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาทที่ทรงพระราชทานให้พวกเรา ซึ่งถือเป็นกำลังใจอย่างมากและเป็นแนวทางในการทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไป

เรื่องที่ 2 ขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเตรียมการแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัด แทนตำแหน่งที่เกษียณและอยู่ในตำแหน่งครบอายุ 4 ปี เพื่อเสนอ ครม.หลังการแถลงนโยบาย

เรื่องที่ 3 สำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาขอให้รัฐมนตรีทุกคน เตรียมชี้แจงตอบคำถาม ในประเด็นนโยบายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยกันสื่อสารและขยายผลนโยบายในส่วนที่ตนเองเกี่ยวข้องเพื่อให้ราชการและประชาชนเข้าใจนโยบายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

เรื่องที่ 4 ขอให้ช่วยกันดำเนินการต่อเนื่องจากงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ

>> สืบนครบาล รวบ นักเรียนช่างย่านปทุมวัน นำอาวุธปืนประดิษฐ์ดัดแปลงลํากล้องมาขาย โดยติดต่อผ่านสื่อโซเชียล

12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นาย ณุ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี โดยกล่าวหาว่า “จําหน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธ ปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” โดยจับกุมตัวได้ ที่บริเวณลานจอดรถ ภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งบน ถ.เพชรเกษม แขวงบางว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลาง

1.อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลํากล้อง ) ขนาด .380 จํานวน 1 กระบอก 
2.ซองกระสุน จํานวน 1 ซอง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมผู้กระทําความผิดที่ลักลอบจําหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางในการติดต่อ และเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีสายลับแจ้งเข้ามาว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ค ได้เสนอขาย อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลํากล้อง ) ขนาด .380 ในราคา 18,000 บาท โดยนัดหมายให้ มารับ บริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้้ำมัน ปตท. ถ.เพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อ จนกระทั่ง นายณุฯ ได้ เดินมาที่รถยนต์ของสายลับ เพื่อทําการซื้อขายอาวุธปืนของกลาง สายลับได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าทําการจับกุม เบื้องต้นนายณุฯ ได้ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 18,000 บาท จากนั้นได้ทําบันทึกการจับกุม นําตัวส่ง พงส.สน.ภาษีเจริญ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> พบกรดเกลือรั่วไหลจากโรงงาน ทำปลาตาย-คนเจ็บ 1 ราย

16.20 น. นายสมศักด์ จอมเผือก อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) พบปลาตายจำนวนมากส่งกลิ่นเหม็นเน่าในคลองบางกระพรุน ชุมชนบ้านหนองแฟบ ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง สอบถามชาวบ้านแจ้งว่า พบปลาตายตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุว่าน้ำเสียมาจากโรงงานไหน

ต่อมาบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์รั่วไหลของกรดเกลือเกิดขึ้นตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ภายในโรงงาน และทางบริษัทได้ทำการแก้ไขป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงอื่นเกิดขึ้นต่อได้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์รั่วไหล ทีมฉุกเฉินได้ใช้ม่านน้ำพ่นสเปรย์เพื่อป้องกัน หากมีการระเหยของไอเกิดขึ้น และมีหน่วยงานเชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบระงับเหตุ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อการรั่วไหลของกรดเกลือสู่ลำรางสาธารณะ โดยกรดเกลือได้ผ่านออกทางท่อระบายน้ำสู่ลำรางสาธารณะ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำบางส่วน บริษัทได้ร่วมกับการนิคมฯทำการแก้ไขคุณภาพน้ำให้กลับสู่สภาพปกติแล้ว บริษัทชี้แจงว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้รับเหมาได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จากการสัมผัสกรดเกลือถูกนำส่งโรงพยาบาลทำการรักษาส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> ตำรวจไซเบอร์ รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อสูญเกือบ 2 ล้าน

17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.5 นำหมายจับ เข้าจับกุมตัว นางสาวแยม (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ได้ที่บ้านพักในจ.นครศรีธรรมราช

โดยสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทสินเชื่อบัตรเครดิต โทรศัพท์มาหลอกผู้เสียหายว่าใช้บัตรเครดิตไปกดเงินซื้อทอง ซึ่งผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จากนั้นได้โอนสายไปยังบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าผู้เสียหายยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการการฟอกเงิน ต้องโอนเงินไปให้ตรวจสอบทุกบัญชี ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปทุกบัญชีรวมจำนวน 1,800,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นางสาวแยกม (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ มีหมายจับศาลอาญามาพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาอยู่ในบ้านจึงแสดงหมายจับควบคุมตัว ผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่นต่อไป นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า นางสาวแยกม (นามสมมุติ) ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอออกหมายจับไว้อีกจำนวน 1 หมายในความผิดลักษณะเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้รู้จักกับคนให้เปิดบัญชีให้ผ่านทางเฟซบุ๊กได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 1,000 บาท เจ้าหน้าที่ตํารวจแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน นำตัวดำเนินคดีต่อไป

>> สุดโหดพบศพถูกฆ่าทุบหัว หมกห้อง 5 วัน เผยวันเกิดเหตุได้ยินเสียงทะเลาะกัน ก่อนมาพบศพ

19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม ภายในห้องพักชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ ภายในซอยเอกชัย 83/1 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ สูง 7 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณห้อง ชั้นที่ 3 ภายในห้องพบศพนางซูตาง อายุ 39 ปี ชาวเมียนมา นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกทุบที่ศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน ห่างจากศีรษะไปเล็กน้อยพบค้อนเปื้อนคราบเลือด ตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ทราบว่าผู้ตายอาศัยอยู่กับนายทุน ทุน เมี๊ยะ อายุ 43 ปี สามีชาวเมียนมา หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ คราบรอยนิ้วมือ คราบรอยเท้าเปื้อนคราบเลือดที่เปรอะอยู่ตามพื้นห้องไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาเกิดเหตุ เพื่อยืนยันตัวผู้กระทำความผิด พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

>> กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน พายุไต้ฝุ่น "ยางิ" ฉบับที่ 18

เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันนี้ (7 ก.ย. 67) พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” บริเวณตอนใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลาง ที่ละติจูด 21.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 139 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. 67

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา

ข่าวยอดนิยม