หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2567

วันที่ 1 กันยายน 2567 เวลา 05:46 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2567

>> กรมศิลปากรอนุมัติงบฯ ฉุกเฉิน 2 ล้านบาท บูรณะพลับพลา ร.7 จ.ตรัง

09.00 น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้อนุมัติงบประจำปีงบประมาณ 2568 (งบฉุกเฉิน) จำนวน 2 ล้านบาท บูรณะโบราณสถานพลับพลา ร.7 ในโครงการบูรณะโบราณสถานตามรอยเสด็จประพาสน้ำตกกะช่องเพื่อเสริมการท่องเที่ยวเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 11สงขลา ได้ดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 แต่ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากการขออนุญาตใช้พื้นที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง ยังไม่ได้รับการอนุมัติเห็นชอบใช้พื้นที่ ทั้งนี้ กรมศิลปากรไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อเดือนมกราคม 2567 ได้รับแจ้งว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาเห็นชอบให้ใช้พื้นที่ และมอบหมายให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง ร่วมกับสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา กรมศิลปากร ดำเนินโครงการบูรณะดังกล่าว

พลับพลา ร.7 เป็นอาคารประทับพักร้อนริมน้ำตกโตนใหญ่ และได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ.2455 ว่า “ธารหทัยสำราญ” โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคารที่มีชื่อว่า “ตำหนักโปร่งฤทัย” ซึ่งพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต สร้างขึ้นเพื่อรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เมื่อ พ.ศ. 2452 ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลภูเก็ตได้เสด็จมาเสวยพระกระยาหาร ณ พลับพลาแห่งนี้ จึงได้รับการเรียกชื่อว่า “พลับพลา ร.7” ตราบจนมาถึงปัจจุบัน

>> ตำรวจไซเบอร์ บุกจับช่างภาพคอสเพลย์ สะสมคลิปเด็ก อ้างเป็นรสนิยมชอบเก็บไว้ดูเท่านั้น ไม่ได้ส่งต่อหรือขาย

10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.6 ต.กระทุ่มแบน อ.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี บุคคลเป้าหมายอยู่ภายในบ้าน จึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟนจำนวน 1 เครื่อง และ External Hard Disk จำนวน 1 ชิ้น จากการตรวจสอบข้อมูลภายในอุปกรณ์ของกลางดังกล่าว พบการเข้ากลุ่มสื่อลามกอนาจารเด็กซึ่งภายในกลุ่มมีสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก ส่วนในอุปกรณ์ External Hard Disk ยังพบสื่อลามกอนาจารเด็กอีกจำนวนกว่า 4,000 ไฟล์

สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนไม่ได้ทำงานประจำ มีเพียงการรับจ๊อบเป็นช่างถ่ายภาพคอสเพลย์ทั่วไป แต่ไม่เคยรับงานถ่ายภาพให้เด็ก เพียงแค่ตนมีรสนิยมทางเพศในการชอบดูสื่อลามกเด็กเท่านั้น จึงเก็บคลิปต่างๆ ไว้เพื่อดูเอง ไม่ได้แชร์ต่อหรือขายคลิปใดๆ เบื่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ฝากขัง 2 พี่น้องผลิตสุราเถื่อน เจ้าตัวรับแล้วเปลี่ยนร้านซื้อส่วนผสม แต่ยังยืนยันไม่รู้เมทานอลปนเปื้อน

13.00 น. สน.มีนบุรี ภายหลังเมื่อวานนี้ ตำรวจ ควบคุมตัว นายสุรศักดิ์ หรือ เอส และนายสุรชัย หรือ อาร์ท สองพี่น้องผู้ต้องหาร่วมกันผลิตสุราเถื่อน ส่งให้เจ๊ปูไปผลิตยาดองขาย จนมีประชาชนเสียชีวิต ช่วงเช้าที่ผ่านมา ภรรยาของนายสุรชัย หรือ อาร์ท เดินทางเข้าติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องหา โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกับสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามต่อมา เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เอสและอาร์ท ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา นำไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน คดีผู้ได้รับสารพิษเมทานอล

ซึ่งระหว่างที่ควบคุมตัวไป ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามทั้ง 2 คนอีกครั้ง ว่ายังยืนยันเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ทั้งคู่ไม่ตอบอะไร เดินก้มหน้าอย่างเดียวพันตำรวจเอกอิสระ ณ พัทลุง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ระบุว่า จากการสอบปากคำในทีแรก ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ได้ให้การในข้อเท็จจริงว่าได้ไปซื้อเอทิลแอลกอฮอล์มาผลิตสุราส่งให้กับเจ๊ปู / ต่อมาเมื่อเช้านี้ ผู้ต้องหาบอกว่า อยากจะให้การเพิ่มเติม ซึ่งตำรวจเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงประสานทนายความ จทำสภาทนายความมาร่วมสอบ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้รับสารภาพข้อกล่าวหา แต่ให้การในข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลมีนบุรี โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานขณะที่มีรายงานว่า จากการสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ต้องหาได้รับแล้วว่า มีการเปลี่ยนเจ้าในการสั่งซื้อเอทิลแอลกอฮอล์จริง

โดยไปซื้อเจ้าที่มีราคาถูกกว่าอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล แต่ยังคงยืนยันว่าซื้อสารเอทิลแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เมทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งชุดสืบสวนจะติดตามขยายผลประเด็นนี้ต่อไปต่อมา เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปขึ้นรถเพื่อส่งตัวฝากขังศาลมีนบุรี

>> "ธนาคารกรุงไทย" ขยายเวลาปิดทำการ สาขานอกห้างฯ เริ่ม 1 ต.ค. 67

15.30 น. "ธนาคารกรุงไทย" แจ้งปรับเวลาปิดทำการ สาขานอกห้างฯ เริ่ม 1 ต.ค. 67 นี้ สำหรับสาขาในห้างฯ ยังเปิดตามเวลาปกติของแต่ละสาขา วันที่ 31 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงไทย แจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาปิดทำการสาขานอกห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ บางสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป เป็นเวลา 16.00 น. สำหรับสาขาในห้างสรรพสินค้า ยังคงให้บริการตามวันและเวลาทำการปกติของแต่ละสาขา

>> ปักธงแดง ที่สะพานข้ามแม่น้ำน่าน จ.พิจิตร เตือนน้ำเริ่มล้นตลิ่ง

16.50 น. นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผวจ.พิจิตร ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนรับมือสถานการณ์น้ำที่กำลังจะเพิ่มระดับขึ้นและจะมีปริมาณมากที่สุดในช่วงกลางเดือน ก.ย. พร้อมสั่งการทุกอำเภอประชุมร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐหรือไม่ เนื่องจากบางพื้นที่ไม่ประสงค์ขอความช่วยเหลือ ยืนยันที่จะคงวิถีชีวิตแบบทุกๆ ปีไว้ เนื่องจาก จ.พิจิตร เป็นทางผ่านของน้ำ ทั้งแม่น้ำน่าน ระยะทาง 97 กม. และแม่น้ำยม 124 กม.

ทั้งนี้ ได้สั่งทุกอำเภอที่มีน้ำท่วม จัดทำไม้วัดระดับน้ำทุกหมู่บ้านที่มีการท่วม และสั่งให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจความเสียหายของเกษตรกรและให้การช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องทันที

ขณะที่ช่วงบ่าย นายวิทูร เกิดอินทร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทาน จ.พิจิตร นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตั้งธงแดง ที่สะพานข้ามแม่น้ำน่าน อ.เมืองพิจิตร เป็นสัญลักษณ์แจ้งระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่ง ให้อพยพเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่ง หลังจากเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาออกติดธงสีเหลือง เพื่อแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร ล่าสุดระดับน้ำที่บริเวณดังกล่าว วัดได้ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 70 เซนติเมตรเท่านั้น

>> ฝนถล่มหนัก น้ำป่าดอยผาตั้งไหลหลากทะลัก ท่วมหมู่บ้านปางหัด ระลอกที่ 2

17.30 น. เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลาก เข้าพื้นที่บ้านปางหัด หมู่2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยกระแสน้ำ จากลำห้วยผาตั้ง ได้พัดเข้าหมู่บ้านอย่างรุนแรง พร้อมทั้งนำ เศษกิ่งไม้ และโคลน มากับกระแสน้ำด้วย ซึ่งน้ำป่าที่เข้าหมู่บ้านในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน ทำให้ชาวบ้านไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับน้ำป่าดังกล่าว

นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า น้ำในพื้นที่บ้านปางหัดเป็นน้ำป่าไหลมาจากดอยผาตั้ง เนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมามีฝน ตกลงมาจากบนยอดดอย จนเกิดน้ำป่าเข้าท่วมหมู่บ้าน อย่างรวดเร็วเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นน้ำได้ลดลงเป็นปกติ ปัจจุบันชาวบ้านได้เร่ง ทำความสะอาดดินโคลนที่ไหลมากับน้ำ ในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบความเสียหาย ของบ้านเรือนประชาชน อย่างไรก็ตามพบว่า น้ำป่าที่ไหลมาในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงเหมือนครั้งที่ผ่านมา

โดยหลังจากน้ำป่าได้ลดลงแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารพรานที่ 31 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยขนย้ายสิ่งของ จากบริเวณบ้านและ ทำความสะอาดพื้นผิวถนนให้ชาวบ้าน

>> ดับ 7 ศพแล้ว! คลัสเตอร์ยาดองมรณะย่านมีนบุรี

19.00 น จากกรณีผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมจากเมทานอล จนทำให้ร่างกายเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ข้อมูลจากกรมการแพทย์ล่าสุด พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 44 ราย รักษาหายแล้ว 29 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่ 8 ราย กระจายอยู่ใน รพ.นพรัตนราชธานี 4 ราย, รพ.เลิดสิน 1 ราย, รพ.ราชวิถี 1 ราย, รพ.เชียงคำ จ.พะเยา 1 ราย, รพ.เอกชนอีก 1 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงใส่ท่อช่วยหายใจ 6 ราย

ผู้ป่วยรายล่าสุดที่เข้าสู่ระบบการรักษาเป็นชายสูงอายุ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พะเยา โดยได้มาเยี่ยมลูกที่กรุงเทพมหานคร ประวัตินำเหล้าจากซุ้มหทัยราษฎร์ 33 กลับไป จ.พะเยา โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ได้ดื่มแอลกอฮอล์ที่ซื้อไปเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นมีอาการตาพร่ามัว ต่อมาในวันที่ 29 สิงหาคม มีอาการเหนื่อย จึงเข้าไปพบแพทย์ที่ รพ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าได้รับสารเมทานอล 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม