หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบหนุ่มบัญชีม้าแก๊งหลอกลงทุน เหยื่อถูกหลอกสูญเงินรวมกว่า 11 ล้านบาท

วันที่ 23 พฤษภาคม 2024 เวลา 04:13 น.


รวบหนุ่มบัญชีม้าแก๊งหลอกลงทุน เหยื่อถูกหลอกสูญเงินรวมกว่า 11 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พโดย ล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. หร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายนัท อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับรวมจำนวน 2 หมายจับ

1. หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ลง 29 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน“ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง”

2. หมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 28 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง , โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่  ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  

ในส่วนของหมายจับศาลจังหวัดชุมพร สืบเนื่องจากทางผู้เสียหายได้เห็นโฆษณาชักชวนให้ลงทุนทำกิจกรรมขายสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ โดยหลอกว่าจะได้รับกำไรเป็นเงินปัญผลตามสัดส่วนที่ลงทุน โดยคนร้ายมีการสร้างแอปพลิเคชันหลอกให้ผู้เสียหายเชื่อว่ามีการดำเนินกิจการจริง และแสดงตัวเลขที่จะได้รับผลตอบแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่คนร้ายใช้ (บัญชีม้าซึ่งเป็นชื่อผู้ต้องหา) จำนวน 11 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.97 ล้านบาท ต่อมาเมื่อไม่สามารถถอนเงินออกได้ และไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปะทิว จังหวัดชุมพร พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับตามหมายจับดังกล่าว

และในส่วนของหมายจับศาลอาญา สืบเนื่องมาจากมีคนร้ายใช้บัญชีเฟซบุ๊กซึ่งสร้างโปรไฟล์น่าเชื่อถือ ชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนโดยอ้างว่าเป็นการลงทุนเพื่อกำไรจากการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซี จนผู้เสียหายหลงเชื่อเริ่มโอนเงินลงทุนครั้งแรกเป็นเงิน 5,000 บาท ซึ่งทางคนร้ายได้สร้างบัญชีปลอมผ่านหน้าเว็บไซต์ทำให้ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบผลการลงทุนได้ โดยวันแรกผู้เสียหายทำกำไรและสามารถถอนเงินบางส่วนออกมาได้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อลงทุนเพิ่มรวมกว่า 4.5 ล้านบาท โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายซึ่งเป็นบัญชีม้า ต่อมาเมื่อต้องการถอนเงินออกจากระบบกลับไม่สามารถทำรายการได้ และทางคนร้ายยังหลอกให้โอนเงินเข้าในระบบเพิ่มเติมโดยแจ้งว่าผู้เสียหายทำผิดกฎในการสั่งถอน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินไปตามที่คนร้ายแจ้ง อีกจำนวน 3 ครั้ง รวมผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งหมด 12 ครั้ง รวมเป็นเงิน 8.25 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเมื่อไม่สามารถสั่งถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับตามหมายจับดังกล่าว

นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนทำกิจกรรมขายสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันซื้อขายสินค้า มูลค่าความเสียหายกว่า 2.4 แสนบาท ซึ่งทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม โดยทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งในจำนวนผู้เสียหายทั้ง ๓ รายนี้ พบว่าถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า ๑๑ ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จากนั้นจึงวางแผนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2566 ผู้ต้องหาเคยเปิดบัญชีให้กับเพื่อน จำนวน 2 บัญชี ได้ค่าจ้าง 1,000 บาท โดยตนเองไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวจะนำบัญชีไปใช้ในเรื่องใดก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม