เกิดเหตุพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เสียหาย 7 อำเภอ กว่า 1,600 หลังคาเรือน หนักสุดอำเภอเมืองสกลนคร เสียหายกว่า 600 หลังคาเรือน ผู้ว่าฯสกลนคร เหล่ากาชาด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เร่งช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

วานนี้ (16 เม.ย.67) นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร  พร้อมด้วย นางทัศนาวัลย์ วิริยานภาภรณ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ปลอบขวัญ ให้กำลังใจผู้ประสบวาตภัยจังหวัดสกลนคร จำนวน 7 อำเภอ พร้อมนำถุงยังชีพสภากาชาดไทย ไปมอบให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยมี ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร ปลัดจังหวัดสกลนคร นายเกรียงไกร จิตธรรม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร สมาชิกเหล่ากาชาด แม่บ้านมหาดไทย นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 และ15 เมษายน 2567 เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งวัดและโรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ทำให้ได้รับความเสียหาย จำนวน 7 อำเภอ สำรวจเบื้องต้นรวม 1,613  หลังคาเรือน ประกอบด้วย อำเภอเจริญศิลป์ ได้รับความเสียหาย 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน รวม 70 หลังคาเรือน  อำเภอคำตากล้า 3 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือน ยุ้งข้าว และคอกสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย 243 หลังคาเรือน อำเภอวานรนิวาส 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน 360 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าล้ม 7 ต้น วัด ยุ้งข้าว และคอกสัตว์เลี้ยง ได้รับความเสียหายบางส่วน อำเภออากาศอำนวย 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 103 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง อำเภอเมืองสกลนคร ได้รับความเสียหาย 9 ตำบล 45 หมู่บ้าน 2 ชุมชน จำนวน 601 หลังคาเรือน ยังมีโรงเรียน คอกสัตว์เลี้ยง และยุ้งข้าว ได้รับความเสียหาย อำเภอกุสุมาลย์ 3 ตำบล 18 หมู่บ้าน 116 หลังคาเรือน ยุ้งข้าวและคอกสัตว์เลี้ยง เสียหายบางส่วน และ อำเภอโพนนาแก้ว 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน 120 หลังคาเรือน

นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจผู้ประสบภัยว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบวาตภัยทุกคน ซึ่งวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายอำเภอที่ประสบวาตภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในแต่ละพื้นที่ สำรวจความเสียหายโดยละเอียด เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ต่อไป