หน้าแรก > อาชญากรรม

แม่ร้องกองปราบฯ ถูกขู่ฆ่า หลังไปรับลูกสาววัย 10 ขวบโดนปู่ทำอนาจาร

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 04:41 น.


แม่ร้องกองปราบฯ ถูกขู่ฆ่า หลังไปรับลูกสาววัย 10 ขวบโดนปู่ทำอนาจาร

วันที่ 20 ก.พ.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.สุ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี มารดา ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ พร้อม นายสม (นามสมมุติ) 57 ปี นางบุญ (นามสมมุติ) 54 ปี ตายาย เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. แจ้งความกรณี ด.ญ.เอ ถูกปู่แท้ๆ ที่อยู่ จว.อุดรธานี กระทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ

น.ส.สุ เปิดเผยว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับนายออ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี มาประมาณ 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ คนที่สองและสามเป็นชายอายุ 8 และ 6 ขวบ

ต่อมาปี 2565 ได้จดทะเบียนหย่าแยกทางกัน โดยตกลงกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี เมื่อ 23 พ.ย.2565 ว่า ให้บุตรทั้งสามคนอยู่ในความปกครองของนายออ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งจะเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านปู่ย่าที่จังหวัดอุดรธานี  โดยที่ตนสามารถติดต่อบุตรทั้งสามคนได้ และไปเยี่ยมและรับลูกๆ ไปดูแลช่วงปิดเทอมได้หรือหรือวันหยุดยาวได้ตามโอกาสที่เหมาะสม รวมทั้งโทรศัพท์ วีดิโอคอล พูดคุยได้ระหว่างเวลา 17.00-19.00 น. วันธรรมดา ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้เวลา 09.00-11.00 น.  หากทำผิดสัญญา กีดกันไม่ให้พบลูกๆ ตนสามารถที่จะพาบุตรทั้งสามคนกลับไปอยู่กับตนและตายาย ที่จังหวัดชลบุรีได้ทันที โดยจะยอมให้ตนซึ่งเป็นมารดา เป็นผู้ปกครองบุตรทั้งสามคนแต่เพียงผู้เดียว

ต่อมาเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงปิดเทอม ตนได้ไปรับลูกทั้งสามคนจากบ้านปู่ย่าที่ จ.อุดรธานี แต่พ่อเขาให้ ด.ญ.เอ บุตรสาวมาแค่คนเดียว เมื่อกลับมาถึงบ้านที่ชลบุรี น้องเอ ได้เล่าให้ตนและตายายว่า ถูกปู่วัย 72 ปีกระทำอนาจาร โดยจับให้นอนทับอวัยวะเพศและถูไถรวมทั้งเอามือมาจับอวัยวะเพศแล้วไปดม เรื่องนี้ยังไม่ได้แจ้งความตำรวจท้องที่ทั้งที่อุดรธานีและชลบุรี เพราะนายออ พยายามมาเอาลูกสาวกลับไปอยู่ด้วย มีการทะเลาะด่าทอกันตนจึงไปแจ้งความ ไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.พานทอง ภ.จว.ชลบุรี เมื่อ 30 พ.ย.66

จ่าคิงส์ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับเด็กเล่าว่าปู่อนาจารรายนี้บังคับจับอวัยวะเพศไป 6-7 ครั้ง แถมให้นอนทับอวัยวะเพศตัวเอง พยายามสอดใส่อวัยะเพศตัวเองแต่เด็กเจ็บ เมื่อเรื่องทราบถึงฝั่งแม่เด็กก็ประสงค์ที่จะรับลูกทั้งหมดมาเลี้ยงดูเองตามข้อตกลงในศาล แต่กลับถูกสามีและปู่ย่ากัดกัน ไม่ยอมให้มาอยู่กับแม่ ปฏิเสธว่าเรื่องที่เด็กเล่าให้แม่ฟังไม่เป็นความจริง พร้อมกับกีดกันไม่ให้บุตรชายอีกสองคนมา เคยให้ทนายความไปติดต่อขอบุตรก็โดนปู่ข่มขู่จะฆ่าทิ้ง เนื่องจากมีญาติเป็นนักการเมืองท้องถิ่น กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องมาให้ตน ช่วยพาเข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจวันนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองปราบปรามสอบปากคำผู้เสียหายแล้วประสานไปยัง ผกก.เมือง อุดรธานี ให้รับแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม