หน้าแรก > อาชญากรรม

บุกจับผับย่านเลียบด่วนรามอินทรา! ไร้ใบอนุญาต รวบนักเที่ยวฉี่ม่วง 122 ราย

วันที่ 10 ธันวาคม 2023 เวลา 06:35 น.


(10 ธ.ค.2566) เวลา 02.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทลายสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ไม่มีใบอนุญาต ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ปฏิบัติการตรวจค้นและทลายผับในย่านเลียบด่วนรามอินทรา ครั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วกรุงเทพ  และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ อาศัยช่วงวันหยุดยาว แสกนเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากยาเสพติด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการแห่งนี้ มีการปล่อยให้ใช้ยาเสพติดเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด

โดยสายลับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 9 ธ.ค.2566 ต่อเนื่องคืนวันที่ 10 ธ.ค. 2566 พบว่าสถานประกอบการมีการกระทำผิดจริง จึงแจ้งไปยังชุดจับ ในเวลา 02.05 น.ของวันที่ 10 ธ.ค. 2566 ปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับเข้าไปถึงภายในผับ นักเที่ยวได้วิ่งกรูออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่เกิดการต่อสู้และจับได้จำนวน 3 คน พบในตัวยาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำไว้จำหน่าย

ส่วนภายในร้านนักเที่ยวจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งกำลังเมามันส์ต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

จากการเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าให้ลักษณะสถานบริการ มีการค้าขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ อย่างสนุกสนาน แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น หลายชนิด ทั้งยาอี ยาเค ยาบ้า และยาแฮปปี้วอเตอร์ ซึ่งเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสถานบันเทิง โดยพบนักเที่ยวจำนวน 214 คน พบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน

จากนั้นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน เป็นหญิง 46 คน ซึ่งหากผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองได้จับกล่าวโทษในความผิดกัยเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม