หน้าแรก > สังคม

2 พี่น้องวัยชรา นอนกับศพน้องชายคนเล็ก โดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว พบชีวิตลำบากไม่มีกิน ไม่มีสวัสดิการรัฐ

วันที่ 6 ธันวาคม 2023 เวลา 05:02 น.


2 พี่น้องวัยชรา นอนกับศพน้องชายคนเล็ก โดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว พบชีวิตลำบากไม่มีกิน ไม่มีสวัสดิการรัฐ  

วันที่ 5 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยนนทบุรี 12 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูว่า เมื่อช่วงเวลา 19.00 น.วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมามีชายสูงอายุเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่ามาหลายวัน จึงเข้ามาตรวจสอบสุดท้ายต้องมาทราบข้อมูลสุดรันทดว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตอยู่ด้วยกัน 3 คนพี่น้องเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด

เมื่อไปถึงพบว่าเป็นห้องแถว 2 ชั้น ภายในห้องชั้นล่างพบ น.ส.นิด อายุ 72 ปี และนายณรงค์ อายุ 67 ปี เป็นพี่น้องกัน นั่งอยู่ในห้องเช่ามีข้าวของเต็มไปหมดรวมถึงกลิ่นปัสสาวะเหม็นคลุ้งไปทั่ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังเดินขึ้นไปดูชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ นายมาโนช อายุ 65 ปีน้องชายนอนเสียชีวิตอยู่ในมุ้งมานานประมาณ 4 วัน โดยที่นอนดังกล่าว 3 คนพี่น้องใช้นอนร่วมกัน จนกระทั่งมาทราบว่าน้องชายคนเล็กเสียชีวิตเมื่อวานนี้ จากการชันสูตรพบว่าเสียชีวิตมาแล้วถึงประมาณ 4 วัน

น.ส.กัลยา อายุ 53 ปีคนดูแลห้องเช่า กล่าวว่า 3 พี่น้องก่อนที่จะมาอยู่ที่นี้ เจ้าของห้องเช่าได้ไปพบเห็นอยู่แถววัดค้างคาว ด้วยความสงสารจึงได้ให้มาอยู่อาศัยที่ห้องเช่าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มานานประมาณ 30 ปีแล้ว แรกๆ คุณยายนิด มีอาชีพเย็บผ้ามีรายได้เล็กๆน้อยๆ แต่ละวันจะเห็นแกเดินออกไปซื้อกับข้าวพวกไข่ไก่มาทอดกินกัน ปัจจุบันทั้ง 3 ชีวิตไม่มีอาชีพ ส่วนการกินคุณยายนิด เป็นคนเดียวที่เดินออกไปตลาดเพื่อหาของกินมาให้น้องชาย 2 คน ซึ่งนายณรงค์ สมองก็ไม่ค่อยดี นายมาโนช ปกติดีทุกอย่าง แต่ก็มาเสียชีวิตไปเสียก่อน และตนก็เพิ่งมาทราบภายหลังว่าทั้ง 3 คนพี่น้อง ไม่มีสิทธิ์สวัสดิการของรัฐใดๆ เลย ทุกวันนี้ก็จะมีเพื่อนบ้านเอาของให้ เอาอาหารมาให้แกกิน ซึ่งก็ไม่เคยพบเห็นมีญาติพี่น้องมาหา ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล โดยเฉพาะน้องชายไม่ค่อยปกติกลัวจะมีอันตรายในภายหลัง

คุณยายนิด ให้ข้อมูลกับทีมข่าวโดยมีลักษณะอาการคล้ายเริ่มหลงลืมบ้างแล้ว กล่าวว่า ปกติที่นี้อยู่ด้วยกัน 3 คนครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 7 คนตนเองเป็นคนที่ 3 นายณรงค์ เป็นคนที่ 4 ส่วนนายมาโนช ที่เสียชีวิตไปเป็นคนสุดท้อง ซึ่งทางผู้สื่อข่าวถามคุณยายว่าไม่รู้หรือว่านายมาโนช เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน คุณยายกับตอบว่านายมาโนช เพิ่งเสียพอรู้ว่าเสียก็แจ้งชาวบ้านทันที ปกติตนทั้ง 3 คนจะขึ้นไปนอนชั้น 2 กัน รุ่งเช้าก็จะลงมาชั้นล่าง ส่วนรายได้มาจากน้องชายอีกคนนำมาให้ครั้งละ 500 บาทถ้าขอ ซึ่งไม่ได้ทุกเดือนปัจจุบันไม่มีรายได้หลัก และทั้ง 3 คนก็ไม่มีเบี้ยยังชีพหรือสวัสดิการของรัฐ ส่วนการกินอยู่ทุกวันนี้ก็ออกไปซื้อของบางทีมีคนเอามาให้บ้าง ผู้สื่อข่าวยังถามว่ามีเงินพอใช้หรือยายตอบกลับมาว่า พอไม่พอก็ต้องพอ ใช้อย่างประหยัดเอา ผู้สื่อข่าวยังถามคุณยายต้องการอะไรบ้าง คุณยายบอกว่าต้องการเงินเพื่อมาซื้ออาหารการกิน ส่วนถ้าจะให้ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานเช่นบ้านพักคนชรา ถ้าต้องแยกกับน้องชายก็จะไม่ไปขออยู่ตรงนี้ต่อไป

ขณะเดียวกันคุณยายนิด ไม่ขอไปเผาศพน้องชายเนื่องจากใจไม่ดี ไม่อยากเห็น เลยไม่ขอไปดีกว่า หลังจากนั้นทางกู้ภัยจึงให้คุณยายและน้องชายจุดธูปบอกกล่าวแทนการเดินทางไปเผาศพน้องชาย

นายยุทธศักดิ์ ภาสุรจิตมงคล อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นหนึ่งในทีมงานที่เข้ามาดำเนินการเรื่องผู้เสียชีวิตคือนายมาโนช กล่าวว่า หลังจากที่มาดำเนินการศพและมีการพูดคุยถึงได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ มีความสงสารและเห็นใจ ตนเองและบรรดาเหล่าอาสาจึงรวบรวมเงินซื้อข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้คุณยาย พร้อมกับทำความสะอาดที่อยู่ให้ใหม่ รวมไปถึงเรื่องการเผาศพทางเราก็รับดำเนินให้ด้วยเช่นกัน

นายพงษภัทร แสงพิทูร หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า วันนี้เรามาดูสภาพข้อเท็จจริงของคุณยายว่ามีความเดือดร้อนเรื่องอะไร และมาให้กำลังใจคุณยายให้มีจิตใจเข้มแข็ง เบื้องต้นจะดูแลค่าจัดการศพตามประเพณี เป็นสวัสดิการที่สามารถจัดการเรื่องงานศพจำนวน 3,000 บาท ที่ทาง พม.จังหวัดดูแล ส่วนคุณยายและน้องชายที่อยู่ด้วยกัน ดูสภาพข้อเท็จจริงแล้ว น่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพ เดี๋ยวเราจะนำตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อดูแลในเรื่องสุขภาพ ต่อจากนั้นเราจะดูแลในเรื่องที่อยู่อาศัย และดูแลเรื่องสิทธิ์สวัสดิการที่จะได้รับ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ หรือผู้สูงอายุในสภาวะยากลำบาก ซึ่งทาง พม.จะมีเงินอุดหนุน รายการที่จะดูแลคุณยายได้ในเบื้องต้น 
ส่วนที่ยายยังไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเป็นเพราะที่อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเราดูจากบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน เดิมที่คุณยายอาศัยอยู่ที่นนทบุรี และย้ายออกไปอยู่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ตรงนี้น่าจะเป็นเหตุให้คุณยายไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ในเรื่องของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ซึ่งตรงนี้ทาง พม.จังหวัดนนทบุรี จะไปดูข้อมูลเชิงลึกก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วเราจึงจะจัดการแก้ไขเพื่อให้คุณยายได้รับสิทธิ์ โดยช่วงนี้จะดูแลเรื่องสุขภาพของคุณยายก่อนและดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

พิรฎา  

 

 

 

ข่าวยอดนิยม