กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ร่วมกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม สิบโท เมธฤต หรือ สุนทรฯ (เสืออ้อย) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามประกาศสืบจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลำดับที่ 105 ฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”​ โดยจับกุมได้บริเวณถนนภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

พฤติการณ์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง นายมณฑลกับ น.ส.อราชัญ บริเวณถนนทางหลวงชนบทบ้านสันวิไล อ.ลี้ จ.ลำพูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไป

จากการสืบสวนทราบว่ามี นายสุรพงศ์ และ นายรุ่งโรจน์ ร่วมกับทีมสังหารมี นายเกรียงไกร, นายบุญทวี และชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน รวม 5 คน ได้รับคำสั่งจากนายพงษ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เป็นชาวเขาเผ่าลีซอ ได้ร่วมกันวางแผนโดยให้นายสุรพงศ์ ใช้ให้นายรุ่งโรจน์ โทรศัพท์ล่อนายมณฑล ผู้ได้รับบาดเจ็บ ออกมาเพื่อที่จะให้นายสุรพงศ์ และทีมสังหาร ใช้อาวุธสงครามยิงหลายนัด จากนั้นแยกย้ายกันหลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายสุรพงศ์และนายรุ่งโรจน์ได้ ทำการสอบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่อาจมีการขัดผลประโยชน์กับ นายพงษ์ฯ ผู้สั่งการ และให้การว่าชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ คือ สิบโท เมธฤต หรือ สุนทร (ผู้ต้องหาในนี้)

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาบวช เปิดสำนักฤาษี ไว้หนวดเครา ไว้ผมยาวรุงรัง เล็บยาวสีแดงเหมือนฤาษีกายแก้ว กบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตะเข็บชายแดนกัมพูชา

ทั้งนี้ สอบสวนทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ สิบโท เมธฤต หรือ สุนทร บุคคลตามหมายจับจริง แต่ให้การภาคเสธ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป