ปอศ. บุกค้น 3 จุด ซุกบุหรี่หนีภาษีทำรัฐเสียหายกว่าล้านบาท

(26 ส.ค.66) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ร่วมจับกุม ผู้ต้องหา 1.นายนิติรุจน์ ฯ อายุ 34 ปี 2.นายวิทยา ฯ อายุ 62 ปี 3.นายนฤดล ฯ อายุ 25 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”  อันเป็นความผิดตามาตรา 246  พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 203 ประกอบมาตรา 204 "ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่ได้รับยกเว้นหรือได้รับคืนภาษีแล้วหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน” สถานที่ตรวจค้น จำนวน 3 จุด

1. บ้านพักในพื้นที่ ม.๕ ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ตามหมายค้นศาลจังหวัดตราด ค.115/2566 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2566 พบ นาย นิติรุจน์ ฯ แสดงตน เป็นผู้นำตรวจค้น

2.บ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.บางคูรัต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายค้นศาลจังหวันนทบุรี ที่ 702/2566 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2566 พบนาย วิทยา ฯ แสดงตน เป็นผู้นำตรวจค้น

3. อาคารพาณิชย์ภายในซอยร่มเกล้า 24 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ 993/90 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2566 วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 พบนาย นฤดล ฯแสดงตนเป็นผู้นำตรวจค้น ของกลางที่ตรวจยึด บุหรี่ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ และบางส่วนเป็นบุหรี่ปลอม ตัวอย่างยี่ห้อของกลาง เช่น Marlboro ,L&M ,Texas 5 ,Canyan , Oris ,Cappital เป็นต้น จำนวนทั้งสิ้น 2,000 กว่าซอง คิดเป็น 30,000 มวน มูลค่าความเสียหายต่อรัฐหลักล้านบาท

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2  บก.ปอศ.และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตร ได้ร่วมกันออกปฏิบัติการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด ที่ได้มีการโฆษณาจำหน่ายบุหรี่หนีภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ จากการสืบสวนทำให้สืบทราบว่าบริเวณที่ตรวจค้นทั้ง 3 จุด น่าเชื่อได้ว่ามีการลักลอบนำบุหรี่จากต่างประเทศเข้ามาภายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้ขอศาลออกหมาย เพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ทั้ง 3 จุดดังกล่าว

จากการตรวจค้นพบบุหรี่ที่มีแหล่งที่มาจากต่างประเทศ จำนวนประมาณ 3,000 กว่าซอง และจากการตรวจสอบสินค้าไม่ปรากฎตราหรือฉลากเกี่ยวกับตัวสินค้าว่าเป็นสินค้าชนิดใดหรือใช้งานอย่างใด หรือไม่พบสัญลักษณ์ที่ระบุว่าได้ผ่านตัวแทนนำเข้าในประเทศไทยแต่อย่างใด ทำให้น่าเชื่อว่าถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศแบบผิดกฎหมาย จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางแล้ว ได้เชิญผู้ต้องหามาให้ปากคำ และแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป