วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 เวลา 11:57 น.
5 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังจับกุมเครือข่ายกว่า 4 ราย และบุกทลายโรงชำแหละนี้ ตรวจยึดรถที่รอ “ขึ้นเขียง” อยู่อีกจำนวน 10 คัน ไว้ได้ทันท่วงที แต่ก็เป็นที่น่าสลด ผู้เสียหายรายหนึ่ง ติดตามเจ้าหน้าที่มากับเจ้าหน้าที่หวังได้รถคืนสุดท้ายเหลือเพียง “ซาก”
การลงพื้นที่ครั้งนี้ จับกุมตัวสองสามีภรรยาซึ่งเป็น “หัวหน้า” ได้พร้อมเครือข่ายคือ 1.นางสมนึก อายุ 65 ปี (มาม่าซัง) 2.น.ส.กนกวรรณ อายุ 41 ปี (ลูกสาว) 3.น.ส.นฤมล อายุ 19 ปี (หลานสาว) 4.นายรุ้ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย) พร้อมยึดของกลางจำนวน 12 รายการ อาทิ รถยนต์ 10 คัน
ซึ่งจากการสืบสวนแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้นั้นจะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และจะใช้พื้นที่ด้านหลังร้านเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่การ “ชำแหละ” แยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่า “ครบวงจร” ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด โดยระยะเวลาในการ “ย่อยสลาย” รถเมื่อแก๊งมาม่าซังได้รับรถมาแล้ว ใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 วัน
ซึ่งการสืบสวนทำให้ทราบว่าแก๊งมาม่าซังนี้ จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ยังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในละแวก ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามาม่าซังรายนี้คือ “เจ้าใหญ่” ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “จากการจับกุมครั้งนี้เราขยายผลมาจากการจับกุม เซเลบเก๊ จนมาพบเครือข่ายมาม่าซังนักชำแหละรถรายใหญ่นี้ จากปฏิบัติการทลายเครือข่ายนี้เราตรวจยึดรถต้องสงสัยได้จำนวน 10 คัน จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถข้างต้น หากเป็นรถของท่านให้รีบแจ้งมาที่ บก.สส.บช.น. ทางโทรศัพท์หรือช่องทางเฟซบุ๊กเพจ สืบสวนนครบาล IDMB ตลอด 24 ชั่วโมง