ตำรวจสอท. ร่วมแถลงจับกุม นางสาวปทุมรัตน์ อายุ 20 ปี และนายสมศักดิ์ อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ฐาน“ร่วมกันฉ้อโกง” โดยจับกุมได้หมู่บ้านเอื้ออาทร อําเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

หลังตำรวจได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหาย 2 ราย โดยรายแรกเป็นแพทย์หญิง จ.ชุมพร ถูกคนร้ายหลอกโอนเงินจำนวน 101 ล้านบาท และรายที่สอง เป็นนักธุรกิจประกอบกิจการพลังงานแสงอาทิตย์ ถูกคนร้ายหลอกโอนเงิน จํานวน 42 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการสอบเหยื่อทั้งสอง พบแผนประทุษกรรมคล้ายกัน โดยคนร้ายอ้างเป็นพนักงานขนส่ง บริษัทเอกชน ออกอุบายว่ามีพัสดุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อความบริสุทธิ์ใจให้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อติดต่อไปแล้วมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจระดับ ผู้กํากับ สภ.เมืองเชียงราย แจ้งว่าให้ผู้เสียหายทั้งสองโอนเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายเพื่อไปตรวจสอบ และข่มขู่ว่าถ้าไม่มีการโอนเงินมา ตรวจสอบจะดําเนินการออกหมายจับผู้เสียหายทั้งสอง ผู้เสียหายทั้งสองเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินทั้งหมด ไปให้ตรวจสอบ

จากนั้นผู้เสียหายทั้งสองจึงได้พยายามติดต่อกับผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจแต่ก็ไม่ สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายทั้งสองจึงเชื่อว่าตนเองนั้นถูกหลอกลวง จึงได้เดินทางมาแจ้งความ กระทั่งต่อมาชุดสืบสวนทราบผู้ก่อเหตุคือนายสมศักดิ์ และน.ส.ปทุมรัตน์ จึงได้นำกำลังจับกุม จากแนวทางการสืบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง เป็นบัญชีสุดท้ายที่โอนไปยังบัญชีปลายทางของขบวนการ ก่อนที่จะขบวนการดังกล่าวจะนำเงินที่หลอกมาได้แปลง เพื่อแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งทั้งสองให้การปฎิเสธพร้อมอ้างว่ามีเพื่อนชักชวนให้เปิดบัญชีจำนวน 4 บัญชี โดยให้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท เมื่อเปิดบัญชีแล้วทางผู้ต้องหาได้ยินยอมให้รหัสในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ และไม่ทราบมาก่อนว่าบัญชีที่ถูกเปิดถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามกรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานเป็นตัวการ หรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิดนั้น ตามพรก.ใหม่ที่ได้ออกมาบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม คดีตั้งแต่ผู้เสียหายแจ้งความทางตำรวจบช.สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จับกุมเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่บัญชีม้าจนถึงผู้ที่เป็นคอลเซ็นเตอร์พูดหลอกเหยื่อ รวมทั้งได้มีการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายอย่างไรก็ดีทางชุดสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลแล้วเป็นชายชาวต่างชาติ และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมเพื่อสาวถึงตัวการใหญ่ต่อไป