หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ. ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตะลุยพื้นที่ภาคอิสาน กวาดล้างสินค้าปลอม

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 04:32 น.


ปอศ. ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตะลุยพื้นที่ภาคอิสาน กวาดล้างสินค้าปลอม

กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า ร่วมกันจับกุม จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย ดำเนินคดีในฐานความผิด “เสนอจำหน่าย/มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร” ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 4,718 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากว่า 4 ล้านบาท โดยสินค้าที่ตรวจยึดสินค้าเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าหลากหลายประเภท อาทิ อุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวกับยานพาหนะ อะไหล่ยานยนต์ยี่ห้อดัง เสื้อผ้า และรองเท้าแบรนด์เนม ยี่ห้อดัง
สถานที่จับกุม ได้ร่วมกันตรวจค้น จำนวน 6 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้
1.ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
2.ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
3.ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
4.ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

สืบเนื่องจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้ร่วมกันประชุมหารือกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จนได้มีบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานการป้องกันการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อปกป้องคุ้มครองพิทักษ์สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและขจัดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้ลดน้อยลง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้ผนึกกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกลงพื้นที่ภาคอิสาน กวาดล้างแหล่งค้าสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ โดยมุ่งเป้าไปยังพื้นที่เฝ้าระวังไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ตลาดค้าส่ง – ค้าปลีก รายใหญ่ประจำจังหวัด/อำเภอ รวมถึงร้านค้าที่จำหน่ายทั้งหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้ขอศาลอนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่กักเก็บสินค้าปลอม รวมจำนวน 6 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย พร้อมตรวจยึดสินค้า รวมจำนวนกว่า 4,718 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากว่า 4 ล้านบาท จากการตรวจสอบเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตราฐานและปลอมเครื่องหมายการค้าจึงได้ร่วมกันตรวจยึดสินค้าดังกล่าว พร้อมกับจับกุมบุคคลที่เป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าว นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม