รวบสาวเจ้าของบัญชีม้า อ้างถูกมิจฉาชีพตีสนิทขอยืมใช้บัญชี รู้ตัวอีกทีตกเป็นผู้ต้องหาหลายคดี เสียหายหลักล้านบาท

กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พร้อม 
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นางสาว นิด (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาจับตามหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ” จับกุม บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2567 นางสาวนิชาภา ฯ ผู้ต้องหา ได้รู้จักหญิงชื่อ “กิ๊ก” ซึ่งประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดนัด เนื่องจากผู้ต้องหามาซื้อสินค้าเป็นประจำและมีการพูดคุยกันจนสนิทสนมกัน ต่อมา นางกิ๊กได้เล่าให้ผู้ต้องหาฟังว่า มีปัญหาทะเลาะกับสามี ถูกทำร้ายร่างกายและถูกยึดโทรศัพท์ ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ จึงขอยืมบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาเป็นระยะเวลา 3 วัน

ทั้งนี้ ได้มีการตั้งกลุ่มแชทซึ่งมีสมาชิกจำนวน 3 คน ได้แก่ ผู้ต้องหา นางกิ๊ก และชายอีกหนึ่งคนซึ่งไม่ทราบชื่อ โดยชายดังกล่าวเป็นผู้แนะนำขั้นตอนการเปิดบัญชีผ่านระบบออนไลน์ ภายหลังจากให้ยืมบัญชีประมาณ 3 วัน ทุกอย่างยังเป็นปกติ แต่ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 10 วัน ผู้ต้องหาไม่สามารถติดต่อ นางกิ๊ก ได้ และกลุ่มแชทดังกล่าวถูกยกเลิกไป

ต่อมาประมาณ 5 – 6 เดือน ผู้ต้องหาได้ไปทำธุรกรรมโอนเงินที่ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แต่ไม่สามารถทำรายการได้ เนื่องจากบัญชีถูกอายัด จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร และได้รับคำแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบว่าบัญชีธนาคารของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหลายคดี ผู้ต้องหาจึงเชื่อว่าบัญชีของตนถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นางสาวนิด (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568 จะเดินทางมาปรากฏตัวบริเวณสถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบหญิงไทยรูปร่างและลักษณะตรงตามตำหนิรูปพรรณของบุคคลตามหมายจับ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบ พบว่าชื่อ–สกุลและข้อมูลส่วนบุคคลตรงกับบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ