วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 16:13 น.
วันนี้ ( 11 ธันวาคม 2568) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายสุพจน์ แสนมี ปลัดจังหวัดเชียงราย นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนสำนักงานประสานงานชายแดนไทย - เมียนมา (TBC) ได้เดินทางลงพื้นที่ ณ สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 (แม่สาย - ท่าขี้เหล็ก) จ.เชียงราย ภารกิจสำคัญในครั้งนี้ ขับเคลื่อนด้วยการประสานความร่วมมือจาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35), กองกำลังผาเมือง, กรมศุลกากร และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงราย ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานระหว่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการเพื่อการควบคุมยาเสพติด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย (แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) ซึ่งได้ประสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการข่าวร่วมกัน จนนำไปสู่การตรวจสอบประวัติและหมายจับ
ภารกิจสำคัญในครั้งนี้ คือการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อรับมอบตัวบุคคลสัญชาติไทยที่หลบหนีไปอาศัยอยู่ในสหภาพเมียนมา จำนวน 4 ราย จากทางการเมียนมา (CCDAC และ ตม.ท่าขี้เหล็ก) ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติและหมายจับ พบรายละเอียดดังนี้
กลุ่มที่ 1: ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด (2 ราย)
1. ชายอายุ 33 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ข้อหาจำหน่ายและครอบครองยาเสพติด (ไอซ์) สืบสวนพบว่าเป็นเครือข่ายของ "นายภัทรพงษ์" นักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีพฤติการณ์จัดหายาบ้าล็อตใหญ่ (5 แสน - 1.2 ล้านเม็ด) กระจายสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
2. ชายอายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) มีพฤติการณ์จัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียง
กลุ่มที่ 2: ผู้ต้องหาคดีอื่นและผู้มีประวัติอาชญากรรม (2 ราย)
3. ผู้ต้องหาหญิงตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ในคดี "ฉ้อโกง"
4. ผู้ต้องหาชาย จากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อปี 2553
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวขอบคุณทางการเมียนมาที่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการกวาดล้างแหล่งพักพิงของอาชญากรข้ามชาติ ทั้งในส่วนของคดียาเสพติดและคดีอาชญากรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาคี อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตม., กองกำลังผาเมือง, นบ.ยส.35 และกรมศุลกากร โดยเฉพาะนักค้ายาเสพติดคนไทยที่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในทุกระดับการค้า ซึ่งมีหมายจับคดียาเสพติดและหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และขอบคุณหน่วยงานภาคีที่ร่วมบูรณาการปราบปรามยาเสพติดและสืบสวนขยายผลจนนำไปสู่การออกหมายจับผู้กระทำผิดในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเดินหน้าบูรณาการการทำงานในทุกมิติ เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด