24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 ธันวาคม 2568
>> นายกฯ นำทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รัชกาลที่ 9
07.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2568
นายกฯ จุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป และนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 189 รูป
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 2 เสียหายหลายหลัง
09.52 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 2 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ปลูกติดกัน
หลายหลังคาเรือน เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด จำนวน 5 หลังคาเรือน และลุกลามอาคารข้างเคียง เสียหายห้องควบคุมระบบไฟฟ้า คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ หน้าต่าง และกระจก พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 100 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยห้วยขวาง
>> อุบัติเหตุ จีวรพันล้อรถ หลวงพ่อร่วงจากรถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บที่บ้านดุง จ.อุดรธานี
10.37 น. อาสาสมัครจุดบริการสว่างเมธาบ้านดุง ร่วมกับสมาคมกู้ภัยศรีสุทโธบ้านดุง ออกตรวจสอบเหตุ พระภิกษุสงฆ์พลัดตกรถจักรยานยนต์ และได้รับบาดเจ็บ ริมถนนหน้าโรงเรียนเทศบาล 2 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ป้ายทะเบียน อุดรธานี จอดอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นพระสงฆ์ 1 รูปมีอาการเจ็บปวดตามร่างกาย ทางอาสาสมัครทำการช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.บ้านดุงในเวลาต่อมา
>> ไม่รอด คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงบริษัทเงินกู้ กวาดเงินสดกว่า 4 หมื่นบาท สารภาพเอาเงินไปใช้หนี้นอกระบบ
11.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ เป็นเงินสดกว่า 40,000 บาท และ จับ นาย หนึ่ง ( นามสมมุติ) อายุ 30 ปี หัวหน้าสาขาบริษัทเงินกู้ฯ ขังไว้ในห้องน้ำ ภายใน บริษัทเงินกู้แห่งหนึ่ง พื้นที่อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.68) ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบุรี สามารถจับกุมตัว นาย สอง (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกได้จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ตำบลหาดเจ้าสำราญ
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลที่ก่อเหตุจริง โดยเคสแรกก่อเหตุในพื้นที่เมืองในลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วน ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. โดยทำไปเพื่อนำเงินไปใช้หนี้เงินกู้นอกระบบ และทุกครั้งที่ก่อเหตุจะนำเซฟเวอร์ไปด้วย และนำไปโยนทิ้งน้ำทันที พร้อมกับมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ
ของกลางที่ยึดได้เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 1 คัน เสื้อ รองเท้า และหมวกกันน็อค ส่วนกางเกงยีนส์ผู้ต้องหาอ้างว่านำไปเผาทิ้งเพื่อทำลาย โดยตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และประสานกู้ภัยขอกำลังสนับสนุนของกลางเพื่อนำมาประกอบสำนวนในคดี ก่อนแจ้งข้อหาลักทรัพย์พร้อมส่งตัว ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถตู้ชนกับรถกระบะกลางทางแยก มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย อาสากู้ภัยเร่งนำส่ง รพ.
11.56 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ จังหวัดลพบุรี ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ ชนกับรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางแยกหน้าสหกรณ์โคนม หมู่ที่2 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีทา ลักษณะตกข้างทางรถพังเสียหาย และห่างออกไปบนถนน พบรถตู้ โตโยต้า สีขาว จอดอยู่สภาพหน้ารถพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 ราย เป็นผู้ชาย 2 ราย ผู้หญิง 3 ราย และเด็กหญิง 1 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลืองและนำส่ง รพ.ท่าหลวง ในส่วนของสาเหตุอยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าหลวง
>> รัฐบาลคาดช่วงวันพ่อหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดกว่า 10,000 ล้านบาท
12.10 น. นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 5–7 ธ.ค. 2568 คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2.52 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 10,320 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของสถานพักแรม 68 % สะท้อนแรงหนุนจากวันหยุดต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่เย็นสบาย และมาตรการกระตุ้นการท่องเทียวของรัฐบาล อย่างเช่น “เที่ยวดี มีคืน” และ “คนละครึ่ง พลัส” ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศให้ฟื้นตัวเด่นชัด ทำให้บรรยากาศการเดินทางในช่วงนี้มีความคึกคัก
นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า ในเชิงพื้นที่ ภาคกลางยังเป็นปลายทางหลัก มีผู้เยี่ยมเยือนสูงสุดราว 612,700 คน-ครั้ง รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 526,800 คน-ครั้ง และภาคตะวันออก 516,500 คน-ครั้ง ขณะที่ด้านรายได้ ภาคตะวันออกขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง 2,720 ล้านบาท ตามด้วยภาคเหนือ 1,960 ล้านบาท และภาคกลาง 1,600 ล้านบาท สำหรับเมืองยอดนิยม เมืองหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี กาญจนบุรี เชียงใหม่ และนครราชสีมา ส่วนเมืองน่าเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ สุพรรณบุรี อุดรธานี เชียงราย เลย และนครศรีธรรมราช
ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงเดือน ธ.ค. ยังเป็นแรงดึงสำคัญ จากสถิติปี 2567 พบคนไทยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเฉลี่ยวันละ 48,400 คน และปี 2568 คาดว่าคนไทยจะเดินทางเพิ่มขึ้นจากเงินบาทแข็งค่า โดยปลายทางยอดนิยมอยู่ในเอเชียตะวันออก เช่น เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน และมาเลเซีย ขณะเดียวกัน เหตุอุทกภัยปลายเดือน พ.ย. ในภาคใต้ยังส่งผลต่อบางพื้นที่ โดยเฉพาะอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลังน้ำลดของโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนและฝนตกเป็นช่วง ๆ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ชะลอตัวลง
>> สกัดบุหรี่ต่างประเทศหลบหนีภาษี ล็อตใหญ่กว่า 6 แสนมวน เตรียมส่งลูกค้าปลายทาง
12.16 น. ตร.ทางหลวง รวบตัว น.ส.ฟอ(นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” พร้อมด้วยของกลาง บุหรี่ต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 614,600 มวน
สืบเนื่องจากที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่อ.ยะรัง จ.ปัตตานี มีการลักลอบขนบุหรี่ต่างประเทศหลบหนีภาษี เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวปรากฎว่าเปิดให้บริการขนส่งพัสดุของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ภายในบ้านมีกล่องพัสดุจำนวนมาก อยู่ระหว่างเตรียมขนย้าย และได้พบนางสาวฟอ เป็นจนท.รับพัสดุ เมื่อจนท.ตรวจสอบภายในกล่องพัสดุ พบบรรจุบุหรี่ต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งไม่มีแหล่งที่มาที่แน่ชัด และไม่มีเอกสารประกอบ และจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นพนง.รับพัสดุตัวแทนของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ซึ่งรับสินค้าจากลูกค้าในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้าปลายทาง พร้อมทั้งควบคุมตัว ส่งดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.ยะรัง ต่อไป
>> ตำรวจเผยผลตรวจ "พบสารพิษ" ในร่างกายนักข่าวช่องดัง
14.49 น.. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีการเสียชีวิตของ นายณัฐวุฒิ ปงลังกา นักข่าวและผู้ประกาศข่าวช่องดัง ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันภายในบ้านพักย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา
แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้แจ้งมายังร้อยเวรเจ้าของคดีว่า จากการชันสูตรศพในเบื้องต้นพบว่ามีสารพิษในร่างกายของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา ส่วนผลชันสูตรอย่างเป็นทางการต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะส่งผลชันสูตรอย่างเป็นทางการกลับมาให้พนักงานสอบสวน หลังได้รับรายงานทางวาจาจากสถาบันนินิวิทยาศาสตร์ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย ได้รายงานให้ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1 ) ทราบพร้อมสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ประชุมและแบ่งหน้าที่การทำงานเพื่อคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนายณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวคนดังต่อไป
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปทางญาติและเพื่อนของผู้ตายที่อยู่ในบ้านวันเกิดเหตุ เพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำ พร้อมกับเตรียมนำตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเกิดเหตุอีกครั้ง
>> ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
16.45 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า ในสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งของตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ ทั้งตำรวจภูธรภาค 9, ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจสอบสวนกลาง ฯลฯ ที่แม้ครอบครัวของตัวเองได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ ยืนยันผู้บังคับบัญชาพร้อมให้ความช่วยเหลือในฐานะ "ครอบครัวตำรวจ" ที่จะไม่ทิ้งกัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ในการตรวจราชการและติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและเยี่ยมเยือนข้าราชการตำรวจ พบว่ามีข้าราชการตำรวจจำนวนมากที่เป็นผู้ประสบภัยโดยตรง บ้านพักอาศัยและทรัพย์สินเสียหาย ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน แต่ตำรวจทุกนายยังคงยึดมั่นในหน้าที่ ปฏิบัติงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งการช่วยอพยพประชาชนสู่พื้นที่ปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอชื่นชมจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในพื้นที่ แม้ในยามวิกฤตที่ตนเองและครอบครัวต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ข้าราชการตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนและเสียสละ เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ถือว่ามีศักยภาพในการรับมือสถานการณ์วิกฤตได้อย่างดี เป็นสิ่งที่น่ายกย่องเชิดชูเกียรติอย่างยิ่ง
>> ในหลวง-พระราชินี ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9
17.12 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
>> จิสด้า ประมวลผลข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม จำลองระดับน้ำสามมิติน้ำท่วมหาดใหญ่จังหวัดสงขลา พบอาคารได้รับผลกระทบกว่าแสนหลัง
17.21 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมเทศบาลนครหาดใหญ่ ด้วยการประมวลผลข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม ร่วมกับแบบจำลองระดับน้ำสามมิติ (3D) เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ผลวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่จำนวนมากมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 1 เมตรไปจนถึงกว่า 4 เมตร โดยเฉพาะบริเวณลุ่มต่ำและพื้นที่ชุมชนหนาแน่นซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก และพบว่า อาคารบ้านเรือนในเทศบาลนครหาดใหญ่ มีจำนวนกว่า 102,520 หลัง ในจำนวนนี้มี 7,693 หลังที่ถูกน้ำท่วมทั้งหลัง และ 59,845 หลังที่ท่วมบางส่วน สะท้อนให้เห็นภาพรวมของผลกระทบที่กระจายเป็นวงกว้างทั่วทั้งเมือง
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยอิสรภาพ 37 อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับ เพลิงสงบ
23.45 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยอิสรภาพ 37 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบน ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เราเตอร์อินเทอร์เน็ต ลุกลามกองหนังสือและเครื่องปรับอากาศ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 12 ตารางเมตร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับ เพลิงสงบก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำทำการดับถ่านและระบายควัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เราเตอร์อินเทอร์เน็ต ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชองของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์
>> รถชนกัน 4 คัน ช่วงแยกไฟแดงลำลูกกาคลอง 4 พี่ชายช็อก พบคันที่มาชนท้ายรถตนเอง เป็นน้องชายที่เสียชีวิต จ.ปทุมธานี
00.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน มีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ถนนลำลูกกา บริเวณไฟแดงแยกคลอง 4 ในพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดง มุ่งหน้าขาเข้า กทม. โดยรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ป้ายทะเบียน กทม.จอดรอสัญญาณไฟแดงเพื่อเลี้ยวขวาเข้าเส้นทาง ถนนไสวประชาราษฎร์ โดยมี ชายไทย อายุ24 ปี เป็นผู้ขับขี่ ส่วนคันที่ 2 พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล บีวายดี สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. มีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงที่นั่งโดยสารมาด้วย ทางมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรลำลูกกา ได้เร่งนำส่งโรงพยาบาลซีจีเอส สายไหม และรถคันที่ 3 รถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. โดยมี ชายไทย อายุ 68 ปีเป็นผู้ขับขี่ และเป็นรถที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก บริเวณด้านท้ายถูกชนอย่างแรง ท่อไอเสียยุบเข้าด้านใน และรถคันที่ 4 เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แอคคอร์ด สีเทา ป้ายทะเบียน ระยอง ทำให้มีอุบัติเหตุรถชนกันจำนวน 4 คัน
จากการตรวจสอบพบว่า ภายในรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีเทา มีผู้เสียชีวิตคือผู้ขับขี่ เป็นชายไทย อายุ 66 ปี และพบว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.
การสอบถาม ผู้ขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า สีขาว ที่ถูกชนท้ายเล่าว่า ตนเองขับมาเฉยๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครับ ผมก็จะมายูเทิร์นเพื่อที่จะกลับบ้าน และยังอยู่ในอาการ งงๆ บอกเพียงว่า ยังไม่รู้อะไรทั้งสิ้น เนื่องจากอยู่ในการตกใจ เพราะผู้ที่ขับมาชนด้านท้ายรถตัวเอง คือน้องชายของตัวเอง ที่ขับตามกันมา
ทางด้านพ.ต.ท.วิมล สมบูรณ์ สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคูคต. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร พร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ขับขี่ทั้งหมด ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ และนำไปทำการสอบสวนที่โรงพัก เพื่อทำการสอบสวนถึงสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
01.41 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.7 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 184 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่ สปป.ลาว
02.50 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.3 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 132 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
6 ธันวาคม 2568
6 ธันวาคม 2568