ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักลอบขนยาเสพติดบนรถไฟ

ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.4 บก.ปพ. ร่วมกันจับกุม

คดีที่ 1 ผู้ต้องหา นายนา (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” จับได้ที่ขบวนรถเชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์หยุด รับ – ส่ง ผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟลำปาง จ.ลำปาง ยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 60,000 เม็ด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

คดีที่ 2 ผู้ต้องหา นางสาวนันชา (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี และ นายวา (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายของยาเสพติดในกลุ่มประชาชนและเป็นภัยต่อความมั่นคง” จับได้ที่ขบวนรถเชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ ขณะวิ่งระหว่างสถานีรถไฟปางต้นผึ้ง-สถานีศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 190,000 เม็ด ผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การปฏิเสธ โดยแจ้งว่า ไม่ทราบว่าของกลางดังกล่าวเป็นยาเสพติด ผู้ต้องหาทั้งสองเพียงมารับจ้างขนอะไหล่รถจักรยานยนต์ โดยมีผู้เอาของมาใส่ไว้ในกระเป๋าตนเอง และกำชับมิให้เปิดดู

สืบเนื่องจาก คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกตรวจบนขบวนรถไฟ เชียงใหม่ - กรุงเทพอภิวัฒน์ ได้พบกระเป๋าเป้สะพายหลังสีเทา ต้องสงสัยวางอยู่บริเวณชั้นวางของ สอบถามไม่พบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ ขณะที่ขบวนรถไฟขบวนที่ 52 กำลังจะจอดเทียบชานชลา นายนา (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา มีลักษณะมีพิรุธ เร่งรีบหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัว สอบถามในเบื้องต้นไม่รับว่าของกลางยาบ้าในกระเป๋าเป็นของตน จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายยุทธนาฯ ได้ครอบครองกระเป๋าใบดังกล่าวและนำติดมาขึ้นขบวนรถไฟตั้งแต่ต้นทางที่สถานีเชียงใหม่ นายนา (นามสมมุติ) จึงรับกว่ากระเป่าและของกลางดังกล่วาตนเป็นของตนเอง  จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน

พฤติการณ์ คดีที่ 2 จากการสืบสวนเพิ่มเติมในกรณีจับกุมนายนา (นามสมมุติ) ในคดีที่ 1 พบว่า มีผู้ต้องสงสัย มีพฤติการณ์ขนยาเสพติดเดียวกันโดยสารมาในขบวนรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบ ผู้ต้องหาคดีที่ 2 ทั้งสองราย มีรูปพรรณสัณฐาน ตามที่ได้รับแจ้งมา นั่งโดยสารอยู่ที่ขบวนรถไฟ เมื่อสอบถามพบว่า ผู้ต้องหามีลักษณะมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจสอบสัมภาระ พบว่ากระเป๋าสัมภาระจำนวน 3 ใบ โดยทั้ง 3 ใบ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมกันได้ 190,000 น. จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ลงสถานีรถไฟศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี