วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23:17 น.
รวบกลุ่มผู้ต้องหาหลอกให้รักแล้วชวนลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล ผู้เสียหายสูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท
กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. , ตำรวจชุดปฏิบัติการ ที่ 5 ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.มิน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ความผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน,และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความสียหายแก่ประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ,เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยไม่มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด" จับกุมได้บริเวณหน้าเรือนจำอำเภอหลังสวน ถ.หลังสวน ต.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย พบโฆษณาบนเฟซบุ๊กที่เป็นลักษณะการยิงโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล และจะได้รับผลตอบแทนดี ผู้เสียหายจึงได้กดเข้าดูผ่านลิงก์โฆษณาดังกล่าว เมื่อกดลิงก์แล้ว พบว่าได้เชื่อมต่อไปยังแอปพลิเคชันไลน์ ลักษณะเป็นการเพิ่มเพื่อนในบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ เมื่อผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนแล้ว ปรากฏข้อความการชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัลเพื่อเก็งกำไรรับค่าตอบแทน ในการลงทุนผู้เสียหายจะต้องนำเงินไปให้กับคนร้าย จากนั้นคนร้ายจะนำเงินไปลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล แล้วคนร้ายจะโอนเงินคืนให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเงินที่ผู้เสียหายใช้ลงทุนพร้อมกับค่าตอบแทน ขณะเดียวกันคนร้ายได้หว่านล้อมพูดผู้เสียหายจนทำให้ผู้เสียหายหลงรักด้วย ผู้เสียหายจึงสนใจและนำเงินเก็บมาร่วมลงทุน ผู้เสียหายโอนเงินให้คนร้ายจำนวนหลายครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 302,472.50 บาท
ต่อมาคนร้ายไม่ได้โอนเงินคืนและไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนตามที่คนร้ายเคยแจ้ง และยังให้ผู้เสียหายนำเงินไปลงทุนเพิ่มอีกเรื่อย ๆ โดยแจ้งว่าจะได้เงินคืนรวมมากับค่าตอบแทนคืนทั้งหมด แต่ผู้เสียหายไม่ได้โอนเงินให้ไปเพิ่มอีก และต่อมาผู้เสียหาย ทราบว่าคนร้ายเป็นมิจฉาชีพที่หลอกลวงผู้เสียหาย มิได้มีเจตนาเป็นการร่วมลงทุนตามที่ตกลงกันไว้ ทำการพูดชักชวนเพียงเพื่อที่จะให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและส่งมอบเงินให้กับคนร้ายไป ผู้เสียหายจึงได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายตามกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนหาข่าวประกอบกับได้รับแจ้งว่า น.ส.มิน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าเรือนจำอำเภอหลังสวน ถ.หลังสวน ต.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว จนกระทั่งพบบุคคลมีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ อยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามข้อมูลเบื้องต้น พบว่าคือ น.ส.มิน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจริง ได้แสดงหมายจับให้ น.ส.มิน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ดูโดยได้อ่านให้ฟัง และให้อ่านด้วยตนเองจนเป็นที่พอใจแล้ว น.ส.มิน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ยอมรับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมในตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งสิทธิให้ทราบและได้ควบคุมตัวทำบันทึกการจับกุม ที่ทำการ กก.5 บก.ป. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา