วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 04:29 น.
ตำรวจทางหลวง สนธิกำลังตำรวจกำแพงแสน ไล่ล่ารถขนยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด คนขับวิ่งหนีไปซ่อนตัวในชุมชน ก่อนถูกโดรนตำรวจไล่ล่าจับกุม
กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. , กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดย พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 (นครปฐม) , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.กำแพงแสน ร่วมกันจับกุม นายดา (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี
ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) บรรจุอยู่ในกระดาษสาชุบเทียนไขสีทอง มีรูปดาวสีน้ำเงิน 5 ดวง มีเลขอารบิก 999 จำนวน 100 ห่อๆละ 10,000 เม็ด อยู่ในกระสอบพลาสติกหลากสี จำนวน 5 กระสอบๆละ 20 ห่อ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000,000 เม็ด
2. รถยนต์ยี่ห้อ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง จำนวน 1 คัน
3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ เรียวมี สีเขียว ของนายเจษฎา หรือแป๊ะ ผู้ต้องหา ใช้ติดต่อสื่อสารเรื่องส่วนตัว และทำธุรกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 1 เครื่อง
สถานที่จับกุม ทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงนครปฐม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ โดยคนร้ายใช้รถยนต์ ยี่ห้อ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้เฝ้าระวังและตรวจสอบในเส้นทางที่รถยนต์ต้องสงสัยอาจขับผ่าน จนพบว่ารถต้องสงสัยกำลังขับขี่มุ่งหน้ามาทาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จากนั้น พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สวญ.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำรถวิทยุตำรวจทางหลวง หมายเลข 2136 ออกติดตามหารถยนต์ต้องสงสัยคนดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่อยู่บนทางหลวงหมายเลข 321 กม.41 อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบว่าป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับรถต้องสงสัยมีข้อมูลไม่ตรงกับรถยนต์ใช้งานอยู่ จึงได้ขับตามสังเกตพฤติกรรมอยู่ห่างๆ และประสานขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และ สภ.กำแพงแสน เพื่อช่วยสกัดตามเส้นทาง
ต่อมาเมื่อติดตามมาถึง แยกไฟแดง กม.ที่ 29 รถยนต์ต้องสงสัยเริ่มรู้ตัวและเร่งเครื่องหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ชุมชนบริเวณฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งขณะนั้นการจราจรในพื้นที่ค่อนข้างพลุกพล่านเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเลิกงานและโรงเรียนเลิก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ติดตามไล่ล่าได้ใช้ทั้งสัญญานไฟวับวาบและเสียงไซเรนเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางสามารถหลบออกจากเส้นทางที่รถของคนร้ายกำลังหลบหนี เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ โดยคนร้ายยังได้ขับรถย้อนศรไปตามถนนที่เต็มไปด้วยรถของประชาชน จนไปถึงทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จนกระทั่งรถยนต์ของคนร้ายได้เสียหลักไปชนกับกองอะไหล่ของร้านซ่อมเครื่องจักรที่อยู่ข้างทาง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถไปต่อได้ จากนั้นมีผู้ขับขี่เป็นชาย สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว ผมสั้น รูปร่างผอม เปิดประตูฝั่งคนขับและวิ่งหลบหนีเข้าไปหลบในชุมชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน จึงได้นำกำลังมาปิดล้อมตรวจค้นบริเวณดังกล่าว โดยตำรวจ สภ.กำแพงแสน ได้ใช้โดรนยุทธวิธีติดตามค้นหาคนร้ายจากมุมสูง จนพบตัวคนร้ายหลบอยู่ในพงหญ้าข้างกำแพงบ้านหลังหนึ่ง จึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวคนร้ายรายนี้เอาไว้ได้ พบว่า คือ นายดา (นามสมมุติ) เมื่อตรวจสอบในรถยนต์ต้องสงสัยพบยาเสพติดใส่กระสอบพลาสติกหลากสี ซ่อนไว้บริเวณที่พักเท้าตอนหลัง จำนวน 2 กระสอบ และห้องเก็บของท้ายรถ จำนวน 3 กระสอบโดยใช้เสื้อผ้าปกคลุมเอาไว้ นายเจษฎาฯ รับว่า ของกลางดังกล่าวที่พบทั้งหมดเป็นของตนเองจริง โดยภายในกระสอบมียาบ้า จำนวนกระสอบละ 200,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวนายดา (นามสมมุติ) พร้อมของกลาง มาที่สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง และได้แจ้งพิสูจน์หลักฐาน ภ.7 มาร่วมตรวจสอบ เป็นกระสอบพลาสติกหลากสี จำนวน 5 กระสอบๆละ 20 ห่อ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 1,000,000 เม็ด
สอบถามคำให้การผู้ต้องหา นายดา (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ไปรับงานขนยาเสพติด โดยได้รับค่าจ้างในการขนส่งครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ได้ขับรถไปรับยาบ้ามาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่ภาคใต้ แต่เมื่อขับมาจนถึง บริเวณ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก็มาถูกตรวจพบและจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง



