ตามนโยบายการบริหารราชการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นข้อหาความผิดร้ายแรง ได้แก่ การครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า จำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือแก่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด 

วันที่ 12 พฤศจิกายน 256 ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ยก.สปพ.) หรือ 191 พลตำรวจเอก สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติด โดยจับกุมผู้ต้องหญิง อายุ 33 ปี จำนวน 2 ราย พร้อมของกลาง ได้แก่ ยาบ้า ประมาณ 50 กระสอบ รวม ยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด รถยนต์ จำนวน 3 คัน และ รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน 

โดยกล่าวหาผู้ต้องหา ว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จับกุมได้ ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568

พฤติการณ์สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.บก.สปพ. ร่วมกับ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ได้ทำการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าพื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนพบว่า กลุ่มเครือข่ายได้ใช้รถยนต์ 2 คัน และใช้โกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้ในการพักและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดก่อนนำไปจำหน่ายในพื้นที่ตอนใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเพื่อทำการจับกุม

โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากสายลับ ว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้รับยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ในโกดังดังกล่าว ก่อนจะนำกำลังมาเฝ้าสังเกตุการณ์กลุ่มเป้าหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พบรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง ได้เคลื่อนตัวออกจากที่พักอาศัยและได้เดินทางมายังโกดังที่เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังอยู่บริเวณใกล้เคียง 

ต่อมาเวลาประมาณ 19.10 น. รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ได้เคลื่อนตัวออกจากโกดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับติดตามและแสดงตัวขอทำการตรวจค้น แต่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้ขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แบ่งกำลัง ส่วนหนึ่งขับติดตามและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ได้เข้าไปตรวจค้นภายในโกดังที่ต้องสงสัยเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด ผลการตรวจค้น พบผู้ต้องหาสองคน พร้อมรถยนต์กระบะ สีขาว ซึ่งจากการตรวจค้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พบยาบ้า จำนวน 40 กระสอบ จำนวน 8,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว 

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด ซึ่งได้ขับรถติดตามรถยนต์เก๋งที่หลบหนี ได้ขับติดตามไปถึงบริเวณถนนทางเข้าวัดฉัตรทองดำริธรรม อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อถึงบริเวณสถานที่ดังกล่าว ผู้ต้องหา ได้ลงจากรถยนต์ และวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋ง พบยาบ้า จำนวน 10 กระสอบ ประมาณ 2 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายใน

ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งจะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องต่อไป