วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13:16 น.
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายภาคส่วนสนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์และมาพุ่งชนคนงานที่กำลังก่อสร้างถนนบริเวณถนนมิตรภาพขาออกเมืองพิษณุโลก หน้าปั๊มบางจากตำบลสมอแขอำเภอเมืองพิษณุโลกเมื่อเวลาประมาณ 20:00 น.ของวันที่ 6 พ.ย 68 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตจำนวน 4 รายและบาดเจ็บจำนวน 7 ราย
ล่าสุดเช้านี้ 7 พ.ย 68 เวลา 10.00 น ที่บริเวณจุดก่อสร้างขยายถนนมิตรภาพหน้าปั๊มบางจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ปภ.จังหวัดพิษณุโลก แขวงการทางพิษณุโลก ผกก. สภเมืองพิษณุโลก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ครั้งนี้
โดยเช้านี้เพื่อนร่วมงานก่อสร้างถนน ได้มายังจุดเกิดเหตุได้ให้ข้อมูลว่าได้ทำงานก่อสร้างขยายถนนทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณนี้มาหลายเดือนแล้วคนงานจุดนี้มีทั้งชาวพิษณุโลกและชาวจังหวัดกำแพงเพชรแต่ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเหลือโฟร์แมน 2 คนและคนงานปรับหน้าปูน 3 คนส่วนคนงานส่วนใหญ่นั้นเดินทางกลับที่พักแล้ว ซึ่งหลังจากกลับที่พักไม่นานก็มาทราบเหตุรู้สึกเสียใจมากที่มาเกิดเหตุครั้งนี้
นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานประชุมคณะทำงานวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ เปิดเผยว่าอุบัติเหตุบนถนนมิตรภาพหน้าปั๊มบางจากเมื่อ 6 พ.ย 68 ถือว่าเป็นอุบัติเหตุใหญ่ เพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย วันนี้คณะทำงานวิเคราะห์สาเหตุจึงลงมายังพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อประชุม วิเคราะห์หาสาเหตุว่าใครถูกผู้ได้รับผลกระทบ และจะได้รับการเยียวยาอย่างไร รถมี พรบ.หรือไม่ วันนี้จะดำเนินการกันให้เบ็ดเสร็จ ซึ่งประกอบด้วยทุกภาคส่วนทั้ง ปภ.ประกันภัย ตำรวจ พมจ. สาธารณสุข เป็นต้น
สำหรับการเยียวยานั้นจะเริ่มต้นจากต้นทางที่ตำรวจโดยผู้กำกับ สภเมืองพิษณุโลก จะเป็นต้นเรื่องให้ดำเนินการสอบสวนด้านอุบัติเหตุว่าใครผิดใครถูกเพื่อจะขยายผลไปสู่การเยียวยา ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นโดยเฉพาะบุคคลที่ 3 คนงานก่อสร้างในพื้นที่ จะได้รับการเยียวยาเป็นอันดับแรก จึงจะไปไล่ตรวจสอบทั้ง พรบ.ภาคบังคับและพรบ.ภาคสมัครใจ ผู้เสียชีวิตอาจจะได้เงินเยียวยา ประมาณ1 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้วงเงินการรักษาตัวคนละไม่เกิน 80,000 บาท
นอกจากนี้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็จะไปช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับผลกระทบการเยียวยารวมถึงดูแลญาติ สาธารณสุขก็จะไปดูแลเรื่องช่วยเหลือเรื่องความเครียด ขณะที่สาเหตุนั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน อาจจะเป็นทั้งเรื่องความเร็ว ความประมาท อยู่ที่การสอบสวนของสภ.เมืองพิษณุโลก อีกครั้ง
ในวันนี้จะนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อใช้พิจารณาในการประกอบด้วย ส่วนความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้างถนนนั้น จากการสอบสวนของแขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 1และ ผู้ประกอบการ ให้การว่ามีการเซฟตี้ในการก่อสร้างอย่างดี มีการตั้งกรวยยาง มีสัญญาณไฟ และมีรถกระบะของผู้ประกอบการก่อสร้างจอดปิดหัว ปิดท้าย ไซต์งานก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัยของคนงาน เพราะเป็นการทำงานล่วงเวลาในยามวิกาล
ด้าน พ.ต.อ.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้สอบปากคำไปเพียงปากเดียว คือคนขับรถ กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คสีบอร์นเทา ทะเบียน 3ขต 8503 กทม.ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร โดยส่วนคนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ หมายเลขทะเบียน บล 5818 พิษณุโลก ที่มีผู้โดยสารมาทั้งหมด 5 ราย นั้น คนขับยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้พนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ส่วนพยานในที่เกิดเหตุก็จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบปากคำให้ได้มากที่สุด ส่วนวันนี้ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหลายภาคส่วนเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์อีกครั้ง
โดยข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ารถกระบะทั้ง 2 คันนั้น ขับขี่มาด้วยความเร็วทั้งคู่ ส่วนเรื่องจะลงลึกไปกว่านั้น ว่าแข่งกันมาหรือไม่ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำมาตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีคนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คสีบอร์นเทา ทะเบียน 3ขต 8503 กทม.ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร นั้นยืนยันว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุคนขับได้ลงมาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เนื่องจากหวั่นว่าจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ยืนยันว่าคนขับไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด
สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4 ราย(คนในรถกระบะ 2 ราย /คนงาน 2 ราย) ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 7 ราย กลับบ้านแล้ว 5 ราย รักษาตัวอยู่อีก 2 ราย
ขอบคุณข้อมูลจาก : Phitsanulok Hotnews