หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบบัญชีม้า หลอกตุ๋นเหยื่อโอนเงิน กว่า 34 ล้านบาท หลังทำทีอ้างว่าเหยื่อเอี่ยวคดีฟอกเงิน

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 18:01 น.


วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุมตัว หญิง อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 430/2568 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ความผิดฐาน

“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และร่วมกันฟอกเงิน”

โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อเดือน กรกฎาคม 2568 กลุ่มคนร้ายใช้โทรศัพท์และแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ สภ.เมืองสุรินทร์ ติดต่อมาที่ผู้เสียหายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แจ้งว่ามีคนนำบัญชีที่มีชื่อผู้เสียหายไปทำธุรกรรม จากนั้นโอนสายต่อไป ปลายสายแจ้งว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ จะให้ผู้เสียหายแจ้งความผ่านทางระบบไลน์ และเข้าสูตรเดิมให้ผู้เสียหายโอนเงิน คนร้ายย้ำอีกว่าคดีเป็นความลับของทางราชการ หากแจ้งเรื่องให้บุคคลอื่นทราบจะมีความผิด และให้ผู้เสียหายรายงานตัว รายงานสถานะทุก 1 ชม. ห้ามยักย้าย เคลื่อนไหวเงินในบัญชี เว้นแต่เจ้าพนักงานตำรวจจะสั่ง คนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน อ้างว่าให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางตรวจสอบ ผู้เสียหายได้โอนเงินไปตามที่คนร้ายแจ้ง จำนวน 32 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 34,671,000 บาท

ภายหลังผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของ สภ.เมืองสุรินทร์ พบว่า ลายเซ็นของ ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ไม่เหมือนกับหนังสือที่คนร้ายเคยส่งมา จึงได้โทรไปสอบถาม ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ จนทราบว่าตนถูกหลอก จึงได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย

โดยก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า หญิงคนดังกล่าว ปรากฎตัวอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ

กระทั่งพบตัว หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นบุคคลตรงตามหมายจับ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูโดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเองจนเป็นที่พอใจแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีตามหมายจับนี้มาก่อน พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบแล้วทุกประการ จากนั้น นำตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม ที่ กก.5 บก.ป. ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม การจับกุม หญิงคนดังกล่าว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไป แต่ หญิงคนดังกล่าว ยังคงปฎิเสธ 
 

ข่าวยอดนิยม