รวบชายวัยเกษียณ หนีคดีข่มขืนลูกบุญธรรม หลังซุกซ่อนในบ่อกุ้งร้าง จ.สงขลา 

(9 ต.ค.68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง ที่ จ.27/2556 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “อนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน สิบสามปี ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี”  สถานที่จับกุม ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายปอ และภรรยาเก่าได้ทำการรับบุตรบุญธรรม มาเลี้ยง ชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 11 ปี ต่อมาประมาณปี 2551 นายปอ อาศัยจังหวะภรรยาไม่อยู่บ้านข่มขืน ด.ญ.เอ จนภรรยาเก่าซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้วนั้นได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายปอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ดำเนินคดีกับนายปอ แต่เพื่อถึงชั้นพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้อง แต่ในชั้นอุธรณ์ศาลลงโทษพิพากษานายปอ ให้จำคุก 17 ปี  และชดใช้เงินจำนวน 100,000 บาท แต่นายปอ ได้หลบหนีไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายปอ ได้ย้ายไปทำงานที่บ่อกุ้งแห่งหนึ่งภายในอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบหาข้อมูล ในพื้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ได้พบเห็นบุคคลคล้าย นายปอ ทำงานในบ่อกุ้งใกล้บ้านตน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงบ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ได้พบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณบ้านพักคนงานภายในบ่อกุ้งดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานให้กับบุคคลดังกล่าวทราบ พร้อมทั้งได้สอบถามชื่อสกุลจริงบุคคลดังกล่าว ทราบคือ นายปอ อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดปากพนัง ที่ จ.27/2556 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2556 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงสำเนาหมายจับของศาล ให้ดูรายละเอียดตามในหมายจับ หลังจากที่นายปอ ได้ดูรายละเอียดหมายจับแล้วจึงได้ให้การรับว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งให้ นายปอ รับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิชั้นจับกุมให้ทราบดีแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.เทพา จ.สงขลา เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมทั้งได้ลงบันทึกประจำวันการจับกุมตัว และนำตัวส่งต่อศาลจังหวัดปากพนัง จ.นราศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป