วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 11:27 น.
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา3คน เสียชีวิต1 ราย รวมเป็น4ราย ฐาน “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และ “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต " พร้อมยึดของกลาง
1. ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 502 กิโลกรัม
2.คีตามีน ชนิดเกล็ดสีขาว น้ำหนักรวมประมาณ 600 กรัม
3. เครื่องบรรจุภัณฑ์สูญญกาศ จำนวน 1 เครื่อง
4. อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน 9 นัด
5. เรือสัญชาติไทย และของกลางรายการอื่นๆ อีกหลายรายการ
โดยจับกุมได้บนเรือสัญชาติไทย ที่จอดอยู่บริเวณห่างจากปลายท่าเรือฉลอง 360 เมตร ตั้งอยู่ที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ตพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.68 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเรือสัญชาติไทย จอดอยู่บริเวณท่าเรือฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยเรือลำดังกล่าวได้แล่นออกมาจาก จ.ระนอง ติดลมมรสุมบริเวณอ่าวฉลอง ใกล้กับท่าเรือฉลอง ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.68 โดยเรือดังกล่าวมีลักษณะผิดปกติจากเรือทั่วไป คือ ไม่แสดงการเข้าออกปกติ, บุคคลในเรือมีท่าทีพิรุธ ลุกลี้ลุกลน คล้ายจะกระทำการบางอย่าง
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนทราบว่าไต๋ก๋งเรือลำดังกล่าว คือ นายเอเป็นชาว จ.ระนอง และมีลูกเรือเป็นชายไม่ทราบชื่อ อีก 3 คน รวมบุคคลที่อยู่บนเรือดังกล่าวรวม 4 คน และได้ออกปฏิบัติการ โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดปฏิบัติการ ใช้เรือจำนวน 3 ลำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งสามชุดปฏิบัติการได้เดินทางออกจากท่าเรือรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พร้อมกัน จนกระทั่งได้พบเรือลำดังกล่าวจอดอยู่ที่จอดอยู่บริเวณพิกัดที่บอกไปขั้นต้น จากการนำเรือเข้าเทียบ และพยายามเข้าตรวจค้น
โดยพบว่านายเอ 1 ใน ผู้ต้องหาได้กระโดดหนีลงไปในทะเลอยู่ตรงบริเวณหัวเรือ เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR) ก่อนนำส่งโรงพยาบาลฉลอง แต่นายเอเสียชีวิต หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการตรวจค้นบนเรือทั้งบริเวณภายในเรือ พบคีตามีน และไอซ์ รวมถึงอาวุธปืนสั้นฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ก่อนจะควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมายังสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ได้ไปรับยาเสพติด(ไอซ์)มาจากบริเวณเกาะสอง ประเทศเมียนมาร์ โดยมีเรือหางยาวมาส่ง จำนวน 40 กระสอบ
จากนั้นนำเรือโดยใช้เส้นทางบริเวณเขตต่อเนื่องของประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ มุ่งหน้าลงใต้ โดยมีนายเอ ซึ่งเป็นไต๋เรือ เป็นผู้สั่งการในการส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าบริเวณนอกชายฝั่งทะเลจังหวัดสตูล จำนวน 500 กิโลกรัม โดยมีเรือสปีดโบ๊ทมารับ จากนั้นมุ่งหน้ากลับมาทางทิศเหนือจอดเรือเพื่อเติมน้ำมันบริเวณจังหวัดภูเก็ต และรอรับคำสั่งให้ไปส่งยาเสพติด(ไอซ์) แต่มาถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมได้เสียก่อน พร้อมของกลางจำนวน 502 กิโลกรัม โดยปืนลูกโม่ที่พบเป็นของ นายเอ ไต๋เรือ














7 ธันวาคม 2568
7 ธันวาคม 2568