หน้าแรก > อาชญากรรม > ข่าวที่น่าสนใจ

นายกฯ สั่งเร่งสอบข้อเท็จจริง เรือหลวงสุโขทัยอับปาง อย่างสุดความสามารถ กำชับเร่งค้นหาผู้สูญหายทุกนายกลับคืนสู่ครอบครัวโดยเร็ว

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลา 15:35 น.


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามการดำเนินการเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยวันนี้กองทัพเรือยังคงดำเนินการเร่งค้นหาเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน

ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 และ เรือ ต.270 รวมถึงเรือ อากาศยาน ทั้งของกองทัพเรือ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาพื้นที่ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. และหน่วยงานต่าง ๆ ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ในขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งยังคงจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เรือหลวงนเรศวรได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 1 ร่าง และจะกลับขึ้นฝั่งที่ อ.บางสะพาน หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลต่อไป

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ล่าสุดในส่วนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยว่า ขณะนี้กองทัพเรือ โดยพล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ และคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ ขณะนี้คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้เร่งดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นายกฯ กำชับให้ค้นหาผู้สูญหายกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่มให้พบ โดยนายกฯ ติดตามการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สั่งการให้เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ติดตามโดยประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ และหน่วยในพื้นที่สัตหีบ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอน ระเบียบ และกฎหมายที่ชัดเจน

นายอนุชา กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ ยืนยันว่านายกฯ และรัฐบาลจะให้การช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะด้านสิทธิกำลังพล รวมทั้งจะนำทหารเรือที่สูญหายทุกนายกลับคืนมาสู่ครอบครัวให้ได้โดยเร็ว

สำหรับสรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วันที่ 26 ธ.ค. เวลา 11.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 10 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 8 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 11 นาย ยังไม่นับรวมเคสที่เจอล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งต้องรอผลและหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ จึงจะมีการตัดยอด

โดยเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ ร.อ.สามารถ แก้วผลึก พ.จ.อ.อัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากนั้นเวลา 15.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมข้าราชการและกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่ จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับร่างพลทหาร วรพงษ์ บุญละคร กำลังพลหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับกำลังพลอีก 3 นาย ซึ่งได้รับการยืนยันตัวบุคคลจากผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล

ประกอบด้วย จ่าตรีศราวุธ นาดี กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย พลทหารสิทธิพงษ์ หงษ์ทอง กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และพลทหารจิราวัฒน์ ธูปหอม กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งจะเคลื่อนศพจากกองบิน 6 ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี ก่อนจะนำร่างไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ ในเวลา 17.00 น. 

ข่าวยอดนิยม