หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบสาวใหญ่เปิดบัญชีม้า ให้เครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกม เหยื่อสูญเงินกว่า 42 ล้าน

วันที่ 18 มีนาคม. 2023 เวลา 16:14 น.


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ Homeland Security Investigation (HSI) จับกุมสาวใหญ่เปิดบัญชีม้า ให้เครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกม เหยื่อสูญเงินกว่า 42 ล้าน

วันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศปชก.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. / กรรมการ ศปชก.ตร. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง, พ.ต.ต.ชัยเวง พาด้วง, ว่าที่ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์, ว่าที่ พ.ต.ต.กมลภพ หาญเวช, ร.ต.อ.วชิรเชษฐ์  อัครธีระพงศ์ สว.กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม น.ส.จิริสุดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2102/2565 ลงวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุม ภายในอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พฤติการณ์สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2559 - 2563 น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย สัญชาติอเมริกัน ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกให้รัก หรือ Romance Scam ที่มีการสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในสื่อสังคมออนไลน์ มีการใช้ภาพโปรไฟล์เป็นชายหนุ่มชาวต่างชาติ หน้าตาดี ประกอบอาชีพการงานมั่นคง และมีความต้องการที่จะย้ายมาใช้ชีวิตคู่กับผู้เสียหาย โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะพูดจาหว่านล้อมหลอกหลวงผู้เสียหายต่างๆนาๆ ทำให้ผู้เสียหายตกหลุมรัก หรือไว้วางใจ จากนั้นจะใช้กลอุบายว่าจะส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้ แต่ต้องมีการเสียค่าดำเนินการต่างๆ จน น.ส.เอ ผู้เสียหาย หลงเชื่อและยอมโอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 42 ล้านบาท ก่อนที่จะถูกตัดขาดการติดต่อ  

ภายหลังจากเกิดเหตุ น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation: HSI) เพื่อขอให้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังขบวนการ Romance Scam ในครั้งนี้ ซึ่งต่อมาผู้แทนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประจำประเทศไทย ได้ประสานขอความร่วมมือในการสืบสวนและดำเนินคดีมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เนื่องจากพบว่าเส้นทางการเงินส่วนใหญ่จะถูกโอนเข้ามาที่ประเทศไทยก่อนที่จะถูกโอนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก./กรรมการ ศปชก.ตร. จึงได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในคดีนี้ และประสานให้ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.

จากการสืบสวน ทราบว่ามีคนไทย จำนวน 21 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดย กลุ่มที่หนึ่ง มีหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทย จากนั้นได้ส่งมอบบัญชีธนาคารของตน (บัญชีม้า) ให้กับขบวนการ Romance Scam แลกกับค่าตอบแทน 3,000-5,000 บาท เพื่อให้ขบวนการมิจฉาชีพชาวต่างชาตินำไปใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย กลุ่มที่สอง ทำหน้าที่รวบรวมบัญชีม้าและเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านส่งมอบบัญชีม้าให้กับมิจฉาชีพชาวต่างชาติที่อยู่ในขบวนการ Romance Scam กลุ่มที่สาม มีหน้าที่พูดคุยหว่านล้อมผู้เสียหาย และหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้จะอยู่ที่ต่างประเทศ

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.จิริสุดาฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ หนึ่งในผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารและส่งมอบบัญชีธนาคารของตนให้กับขบวนการ Romance Scam ซึ่งปัจจุบันไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หลบหนีการจับกุมไปกบดาลอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น กรุงเทพ สมุทรปราการ ชลบุรี กำลังเดินเดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงได้นำกำลังติดตามไปจนสามารถจับกุมตัว น.ส.จิริสุดาฯ ได้บริเวณภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าตนเองได้เปิดบัญชีธนาคารและส่งมอบให้กับเพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่งที่เคยรู้จักกัน โดยที่ตนเองไม่ทราบว่าเพื่อนชาวต่างชาติคนดังกล่าวจะนำบัญชีธนาคารไปในการยักย้ายถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงของบวนการ Romance Scam แต่อย่างใด

สำหรับคดี Romance Scam นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ได้ทำการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้ว 13 ราย จากทั้งหมด 21 ราย โดยมีบางรายหลบหนีคดีอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนผู้ต้องหาอื่นยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อติดตามมาดำเนินคดี


 

ข่าวยอดนิยม