สืบนครบาล รวบนายหน้าขายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ กระจายสินค้าไปยังหลายสาขา พบเคยติดคุกมาแล้วกว่า 10 ปี

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์  รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.

สืบเนื่องจากในวันที่ 7 มี.ค.68 สืบนครบาล ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมโกดังเก็บบุหรี่ ในหมู่บ้านซื่อตรง ต.ไทรม้า จ.นนทบุรี ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย และตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาได้ประมาณ 30,000 ชิ้น จากนั้น ชุดสืบนครบาล ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนกระทั่งทราบว่า นาย นพธณรงค์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาจำนวนดังกล่าว จึงได้ขอหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี

ต่อมาวันที่ 14 มี.ค.68 เวลาประมาณ 12.00 น. ชุดสืบนครบาล ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายนพธณรงค์ฯ  บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 403/2568 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2568 ความผิดฐาน “ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) และ ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย  ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” 
จากการตรวจสอบ นายนพธณรงค์ฯ เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด (ยาไอซ์) ถูกจำคุกมาแล้วประมาณ 11 ปี

ในชั้นจับกุม นายนพธณรงค์ฯ ให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ไม่ใช่เจ้าของกิจการที่แท้จริง มีหน้าที่เพียงเป็นผู้ประสานงานระหว่างนายทุนกับพนักงานร้านแต่ละสาขา เป็นคนรวมเงินจากหน้าร้านไปให้กับเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งเป็นเพื่อนชาวจีนของตน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงต่อไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยึดรถเบนซ์ไว้ตรวจสอบ โดยจะมีการตรวจยึดส่ง สภ.เมืองนนทบุรี และนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.บางศรีเมือง เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป

ฝากไปถึงเยาวชนหากมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง มีความผิดในหลายมาตรา เช่น พ.ร.บ.ศุลกากรมาตรา 246 หากทำการซื้อขายก็ผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์