หน้าแรก > อาชญากรรม

นักธุรกิจสาวโวย ถูกตัวแทนบริษัทสุสานจีนชื่อดังและซินแสอ้างชื่อนักการเมืองดัง หลอกซื้อที่ดินทำสุสาน สูญเกือบ 1 ล้านบาท แต่ได้เป็นสนามหญ้าเปล่า

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 02:57 น.


นักธุรกิจสาวโวย ถูกตัวแทนบริษัทสุสานจีนชื่อดังและซินแสอ้างชื่อนักการเมืองดัง หลอกซื้อที่ดินทำสุสาน สูญเกือบ 1 ล้านบาท แต่ได้เป็นสนามหญ้าเปล่า

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 6 พ.ย. 67 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.นอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และปล่อยบ้านเช่า ใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกตัวแทนบริษัทสุสานจีนเอกชนชื่อดัง และซินแส หลอกให้ซื้อที่ดินที่ จ.ชลบุรี เพื่อทำสุสานคนเป็น หรือแซกี (การสืบชะตา) ผ่านมา 4 ปี ไม่มีการดำเนินการอะไรให้ สูญเงินไปเกือบ 1 ล้านบาท จึงอยากให้ช่วยติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืนและยกเลิกสัญญาทั้งหมด เนื่องจากหลังผู้เสียหายพยายามติดตามเรื่องแต่ไม่สามารถติดต่อบริษัทและบุคคลดังกล่าวได้

จากการตรวจสอบหลักฐาน พบว่ามีเอกสารการจองที่ทำสุสาน เป็นแปลงที่ B DA168 ขนาด 22 ตรม. กว้าง 4 เมตร ยาว 5.5 เมตร ค่าที่ดินราคา 321,000 บาท ค่าก่อสร้าง 244,816 บาท ค่าตกแต่ง 42,000 บาท รวมเป็นเงิน 608,616 บาท วางเงินจองเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 จำนวน 121,723 บาท ผ่อนชำระงวดละ 40,575 บาทจำนวน 11 งวด และ40,567 บาทจำนวนท1 งวด รวมเป็นเงิน 608,615 บาท ( 1 บาทที่หายไปไม่ทราบว่าลดราคาหรืออะไร) จากนั้นเมื่อ ส.ค. 64 ได้มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกเพื่อเร่งทำพิธีแซกีจำนวน 300,000 บาท รวมเป็นเงินยอดรวมทั้งหมดคือ 908,615 บาท โดยมีใบเสร็จและสลิปการโอนเงินทั้งหมดจากบริษัทและตัวแทนดังกล่าว จนเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 ได้มีการติดตามเรื่องไปที่ตัวแทนบริษัทและซินแสได้มีการบ่ายเบี่ยงและต่อมาไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อเดินทางไปที่บริษัทรับสร้างสุสานดังกล่าวที่ กทม.เพื่อสอบถามเรื่องที่ดินสร้างสุสาน กลับได้กลับมาแค่เอกสารใบ certificate จำนวน 1 ใบ โดยต้องจ่ายค่าเอกสารจำนวน 3,000 บาทเพิ่มอีก จนผู้เสียหายต้องเดินทางไปที่ จ.ชลบุรี ที่ตั้งสุสานดังกล่าวเพื่อตรวจสอบเองพบว่ามีแต่แผ่นปูนและที่ดินที่เป็นลานหญ้าเปล่าเท่านั้น จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับลงประจำวันและ แนะนำให้ไปแจ้งที่ สคบ.ต่อ

น.ส.นอ กล่าวว่า เมื่อ ก.ค. 63 อดีตสามีได้ชวนตนไปทำแซกีเต่ามังกร เพื่อสืบชะตา เนื่องจากตนสุขภาพไม่ดี เครียดและมีบุตรยาก ทำกิ๊ฟไปแล้วประมาณ 7 รอบก็ไม่สามารถมีบุตรได้ ตนจึงได้ไปทำแซกีตามความเชื่อคนจีนเพื่อให้สุขภาพดีขึ้นโดยได้เดินทางไปทำที่จ.ชลบุรี เป็นการทำแซกีเต่ามังกร 10 กว่าตัว ราคาตัวละ 48,000 บาท ไม่รวมค่าทำพิธี โดยมีการกรอกประวัติตัวเองไว้ที่สุสาน

ต่อมา ส.ค. 63 ได้มีตัวแทนบริษัทสุสานดังกล่าวติดต่อตนกลับมา อ้างว่าติดตามความคืบหน้าว่าชีวิตและสุขภาพดีขึ้นไหม จากนั้นได้แนะนำเรื่องการทำแซกีสุสาน เพื่อให้มีลูกง่ายขึ้น โดยต้องทำสุสานให้ใหญ่ขึ้น โดยมีการเปิดเผยว่ามีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงก็ซื้อที่ดินทำสุสาน ทำให้ตนเชื่อถือ น่าจะช่วยเรื่องสุขภาพและเรื่องการมีลูก  มีการพอซินแสมาบอกตนว่ามีลูกไม่ได้ ต้องทำพิธีขนาดใหญ่ จึงได้เสนอให้ตนซื้อที่ดินทำสุสานในราคา 608,615 บาท ด้วยความที่ตนอยากมีลูกจึงเชื่อและตกลงซื้อ โดยจ่ายงวดแรกไปวันที่ 1 ก.ย. 63 จำนวน 121,723 บาท และผ่อนไปเดือนละ 40,575 บาทอีก 12 งวด สุดท้ายต้องมาเร่งทำพิธีทางตัวแทนแจ้งว่าต้องปิดยอดเป็นเงินอีก 300,000 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสดและเขียนบิลเงินสดให้

หลังจากตนผ่อนเดือนละ 40,000 กว่ามาเรื่อยๆ ตนก็อยากทำเพื่อให้เห็นผลเร็วโดยทางซินแสและตัวแทนอ้างว่าต้องรีบทำ ตนจึงต้องโอนเงินจำนวน 300,000 บาทเพื่อปิดยอด สุดท้ายก็ไม่ได้มีการทำพิธีใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเขาบอกว่ารวมเป็นค่าทำพิธี หลังจากตกลงทำจนถึงปิดยอดเป็นเวลา 3 ปีแล้วจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำพิธีอะไร พอตนติดต่อไปก็โกหกตนมาตลอด โยนไปทางบริษัทบ้าง โยนมาที่ซินแสบ้างไปมา จนตนไม่รู้ว่าเรื่องจะจบที่ตรงไหน ตอนนี้ตนต้องการยกเลิกสัญญาและต้องการเงินคืน ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบของตน ส่วนเจ้าของบริษัทตนรู้แค่ว่าเป็นชาวมาเลเซีย แต่ไม่รู้ข้อมูลเขาตนพยายามติดต่อเพื่อจะส่งเรื่องไป ทางคนที่บริษัทก็ไม่ให้ข้อมูลอะไร ตนจึงต้องติดต่อมาทางเพจกล้าที่จะก้าวเพื่อให้ช่วยเหลือเพราะตนไม่รู้ว่าเรื่องจะต้องไปยังไงต่อ โดยหลังจากนี้จะไปร้องที่ สคบ.ต่อ พอตนมาถูกหลอกเรื่องนี้ตอนนี้ตนรู้สึกไม่ดีต่อศาสตร์พวกนี้ เพราะตนเหมือนถูกหลอก ไม่ใช่ตนคนเดียวยังมีอีกเป็นกลุ่ม ต้องมาเสียเงินจำนวนเป็นล้านทำให้ตนไม่อยากได้ของแบบนั้น หลังจากนี้ตนจะไม่ยุ่งกับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว มันเป็นการหลอกลวงประชาชนในความคิดของตน เพราะตนไม่อยากให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปอีก เพราะบางคนอาจไม่ได้มีทรัพย์สินมากแต่อยากสุขภาพแข็งแรง ตนมองว่ามาหากินกับความเชื่อ คนไทยมีความเชื่อมาก เขาขายความเชื่อให้กับคนและคิดว่ามีคนโดนแบบตนอีกแต่ไม่กล้าออกมา

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า ผู้เสียหายได้ร้องเรียนมาที่เพจกล้าที่จะก้าว ได้นำหลักฐานทั้งหมดมาให้ตรวจสอบ มันเป็นเรื่องของความเชื่อที่ทำให้เขาสูญเงินไปเกือบหนึ่งล้านบาท พรุ่งนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปพบเลขาธิการ สคบ. ว่าจะมีการช่วยเหลือทางด้านใดได้บ้าง และกรณีนี้ก็สามารถที่จะเป็นกรณีที่เตือนภัยประชาชนได้ จากที่ตนตรวจสอบหลักฐานคิดว่าเป็นการหลอกลวงแน่นอน โดยตัวแทนบริษัทได้มีการกล่าวอ้างเอานักการเมืองคนดังระดับประเทศ มาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ หลังจากดูหลักฐานตนได้ประสานไปที่อธิบดีกรมที่ดินจ.ชลบุรี ได้ข้อมูลว่าที่ดินดังกล่าวมีความแปลก น่าจะมีการเกินเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ และทางกรมที่ดินได้แจ้งว่าที่ดินดังกล่าวทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่งลงมาที่กรมที่ดิน ซึ่งหลังจากนี้ตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบหาความจริงเรื่องที่ดินดังกล่าวเพื่อหาข้อเท็จจริง

เบื้องต้นผู้เสียหายได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด และประสานไปที่ สคบ.เพื่อขอเข้าพบในวันพรุ่งนี้ เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนและให้ตรวจสอบเรื่องที่ดินสุสานว่าถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม