วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.67) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. นำคณะพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ลงพื้นที่ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมสอบปากคำ น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย ผู้เสียหายที่ถูกทนายชื่อดังฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรณีที่พนักงานสอบสวนต้องไปสอบปากคำพยานนอกสถานที่ เนื่องจากเนื้อหาในทางคดีที่ค่อนข้างซับซ้อน มีรายละเอียดจำนวนมาก รวมถึงต้องมีการสอบพยานบุคคลอีกหลายปาก ทำให้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อรถเบนซ์ G-Class สีดำ ที่ผู้เสียหายฝากให้ทนายคนดังซื้อให้ เพื่อเอาไว้ใช้ตอนที่กลับมาเมืองไทย ภายหลังพบว่าทนายคนดังมีการเบิกเงินจากผู้เสียหายไป 13-14 ล้านบาท เพื่อจะนำไปซื้อรถ ปรากฏว่าราคารถคันนี้จริงๆ แล้วมีราคาเพียงแค่ 8 ล้านบาท มีส่วนต่างประมาณ 5-6 ล้านบาท ที่ถูกทนายดังฉ้อโกงไป ทางพนักงานสอบสวนจึงกำลังไล่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะเข้าข่ายความผิดใดอีกบ้าง

นอกจากนี้ ในการสอบปากคำเจ๊อ้อย เจ้าหน้าที่ยังทราบว่า นอกจากหลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ จำนวน 71 ล้านบาท และซื้อรถเบนซ์ G-Class ราคาเกินจริงแล้ว ทนายดังยังมีการหลอกให้นำเงินไปช่วยใช้หนี้ให้กับคนใกล้ชิดอีกด้วย จำนวน 39 ล้านบาท โดยอุปโลกน์ตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้วยอีกหลายคน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลเหล่านี้มีใครอีกบ้าง

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในกรณีนี้หากฝ่ายผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีทั้งกรณีซื้อรถเบนซ์ และหลอกให้ช่วยใช้หนี้ให้คนใกล้ชิดของทนายดังเพิ่มเติมอีก 2 คดี จะทำให้พฤติกรรมจะเข้าข่ายความผิด ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งจะมีเรื่องการตามยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดตามมาอีกด้วย