วันที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 15:11 น.
วันที่ 29 ต.ค.67 พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลัง DSI ประชุมพิจารณารับคดี the icon group เป็นคดีพิเศษกว่า 2 ชั่วโมง ระบุว่าตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาและเครือข่าย ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในประเด็นต่างๆ ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนั้น ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความเอาผิดในหลายข้อหาทั้งความผิดตาม พรก..กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือพ.ร.กแชร์ลูกโซ่ และความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 5 วัน หลังสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเริ่มมีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และมีการเตรียมการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ได้ ไปให้ศาลอาญาพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาทุกคน ในความผิดข้อหาตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีหลักฐานเพียงพอ จนศาลออกหมายจับให้
หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทุกคน ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาครบทุกคน ปรากฏหลักฐานข้อมูลเส้นทางการเงิน ,งบการเงิน ,รูปแบบการตลาด ,การเสียภาษี พบว่า มีรูปแบบพฤติการณ์เสนอผลตอบแทน สร้างภาพลักษณ์ภูมิฐาน ชักจูงให้มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ความผิดตาม พรก. แชร์ลูกโซ่ และเมื่อตรวจสอบจำนวนของผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหาย จึงชัดเจนว่า คดีดังกล่าวเข้าตามบัญชีแนบท้ายของ พรบ.กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ต้องมีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 300 คนและมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท จึงต้องส่งคดีดังกล่าวให้ DSI พิจารณา ไม่ได้เป็นการโยนคดี แต่เป็นไปตามที่กฎหมายระบุ จึงได้เร่งรวบรวมพฤติการณ์และพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้ DSI นำไปดำเนินคดีต่อ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการทำคดีมาจนถึงปัจจุบัน การรับแจ้งความในสำนวนของผู้เสียหาย ยอมรับว่า ยังไม่เรียบร้อย และยังไม่ทราบว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด เนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความเข้ามาเป็นจำนวนกว่า 8,000 คน ทั้งที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และจากต่างจังหวัด ซึ่งสำนวนที่แจ้งความที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการทยอยส่งสำนวนให้จนเกือบครบหมดแล้ว แต่ต้องรอให้สถานีตำรวจแต่ละพื้นที่ ส่งสำนวนเข้ามาที่ส่วนกลาง เพื่อรวบรวมส่งให้ DSI ต่อไป
สำหรับการทำสำนวนคดีและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดกลุ่มผู้ต้องหา ยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจทำสำนวนคดีและมีพยานหลักฐานเกินกว่า 70% แล้ว หาก DSI ต้องการข้อมูลหรือพยานหลักฐานและความช่วยเหลือใดๆ ก็พร้อมดำเนินการสนับสนุน