วันที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 11:48 น.
ผู้ช่วย ผบ.ตร. แจงทำเต็มที่แล้วในการตามจับผู้ต้องหาคดีตากใบ ส่วนหลังคดีหมดอายุความ มีผู้ต้องหาในคดีบางคนปรากฎกาย จากนี้ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดพิจารณา
วันนี้ (29 ต.ค.67) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวว่า หลังศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีตากใบ ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาทันที โดยมีการตรวจค้น 52 จุด เฝ้าระวังจุด 241 จุด ทั้งบ้านตามภูมิลำเนา บ้านญาติของผู้ต้องหา แต่ก็ไม่พบตัวผู้ต้องหา จึงประสานตำรวจสากลออกหมายแดงทั้ง 14 คน ต่อมาสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา 1 คน หลบหนีไปที่ประเทศญี่ปุ่น และอีก 1 คน หลบหนีไปยังประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ จนเมื่อคดีขาดอายุความ และศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้อง จึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ทำให้หมายจับหมดสภาพบังคับ
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พยายามติดตามตัวผู้ต้องหาทุกคนอย่างเต็มที่แล้ว แม้ภายหลังคดีหมดอายุความ พบว่าปลัดอำเภอท่าอุเทน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ปรากฎกายกลับมาทำงานตามปกติ ก็ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดในการพิจารณาต่อไป ส่วนการที่ไม่สามารถตามจับผู้ต้องหาได้ จะเป็นความผิดพลาดของตำรวจหรือไม่นั้น เชื่อว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อไม่สามารถตามจับกุมผู้ต้องหาคดีตากใบได้ อาจส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รุนแรงขึ้น พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ได้มีการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนตำรวจในพื้นที่ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่