หน้าแรก > อาชญากรรม

เปิดยุทธการระเบิดสะพานโจร บุกจับ Simbox ล็อตใหญ่ใจกลางกรุง รวบ 2 ผู้ต้องหา ไทย-จีน ยึดซิมการ์ดไทย กว่า 10,000 ชิ้น ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 06:43 น.


เปิดยุทธการระเบิดสะพานโจร บุกจับ Simbox ล็อตใหญ่ใจกลางกรุง รวบ 2 ผู้ต้องหา ไทย-จีน ยึดซิมการ์ดไทย กว่า 10,000 ชิ้น ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่บ้านพักเเห่งหนึ่งในซอยแฮปปี้แลนด์ทาวน์เฮ้าส์ 4 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.), พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป., กก.สสน. บก.ป. และ บก.ปอท. ร่วมกันแถลงปฏิบัติการ “ระเบิดสะพานโจร” โดยให้ดำเนินการจับกุมผู้แทนเครือข่าย (Retailer) ตู้ซิม ที่กระทำความผิดฯ ตรวจยึด SimBox, โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดลงทะเบียนแล้วกว่าหมื่นชิ้น

โดยบ้านพักของผู้ต้องหาอยู่ภายในซอยแฮปปี้แลนด์ทาวน์เฮ้าส์ 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น เป็นบ้านหลังที่ใหญ่ที่สุดภายในซอย โดยภายในห้องเก็บของชั้นใต้ดิน พบหลักฐานเป็น SimBox จำนวน 100 เครื่อง พร้อมซิมมือถือกว่า 20,000 เบอร์ ซึ่งพบผู้ต้องหา 2 ราย เป็นชายไทยอายุ 68 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและชายชาวจีนอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลควบคุมระบบ

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ ถือว่าใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะมาหลอกลวงชาวไทย โดยจากการตรวจค้นสามารถยึด SimBox 100 เครื่อง พร้อมซิมมือถือจำนวน 20,000 เบอร์ ซึ่งในการโทรหนึ่งครั้งสามารถโทรออกได้ประมาณ 3,000 เบอร์ สำหรับวิธีการของคนร้ายก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม โดยจะอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ครั้งนี้จะมีการหลีกเลี่ยงการเเสดงว่าเป็นเบอร์ที่โทรมาจากต่างประเทศ เช่น +67 +68 ซึ่งจะมีการตั้งฐานในประเทศไทย เมื่อโทรไปหาผู้เสียหายเบอร์โทรศัพท์จะขึ้นเป็นเบอร์ประเทศไทย (+66) ทำให้ผู้เสียหายไม่ลังเลที่จะรับสายโทรศัพท์ โดยหลังจากนี้ก็จะมีการหารือกับทาง กสทช.ถึงมาตรการในการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มีการลงทะเบียนมากกว่า 5 ซิมมือถือหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผล ของขบวนการนี้รวมถึงจะมีการตรวจสอบคนรับลงทะเบียนซิม

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ในวันนี้มีการเข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บ้านในซอยแฮปปี้แลนด์ทาวน์เฮ้าส์ 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พบเครื่อง SimBox จำนวน 28 เครื่อง (เปิดใช้งาน), ซิมการ์ดไทย ทุกเครือข่าย จำนวนประมาณ 10,000 ซิมมือถือ โดยมีนายธีรภัทร รับเป็นผู้ดูแล

จุดที่ 2 บ้านในหมู่บ้านดัง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พบเครื่อง SimBox 20 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 2,000 ซิมมือถือ

จุดที่ 3 คอนโดแห่งหนึ่งตึก B ชั้น 6 ห้องเลขที่ 562/52 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พบเครื่อง SimBox จำนวน 5 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวนประมาณ 370 เครื่อง, ซิมมือถือที่เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 6,000 ซิม โดยมีนายฉวนกวาน หลิน หรือเสี่ยวหลิน สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแล

จุดที่ 4 คอนโดแห่งหนึ่ง ตึก B ชั้น 7 ห้องเลขที่ 562/68 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พบเครื่อง SimBox จำนวน 39 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 103 เครื่อง, ซิมมือถือที่เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 20 ซิม, เอกสารที่เกี่ยวข้อง และธนบัตรสกุลหยวน (ประเทศจีน) จำนวนหนึ่ง

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า การที่พบของกลางเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำลายวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ เนื่องจากหลักฐานที่ยึดมานั้นมีจำนวนมาก แต่เชื่อว่าในขบวนการนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการและตัวบงการ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลต่อไป

จากการสอบสวนชายไทยอายุ 68 ปี รับว่าเป็นเจ้าของบ้าน เดิมก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นคนขายซิมโทรศัพท์มาก่อน จึงมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเบอร์โทรศัพท์ ประกอบอาชีพนี้มาประมาณ 5 ปี โดยซิมที่ได้มาจะนำมาจดทะเบียนเป็นชื่อตัวเองกว่า 10,000 เบอร์ โดยได้รับเป็นผลตอบแทนเบอร์ละ 2 บาท ส่วนซิมที่ได้มาได้มาจากการรับซื้อจากตัวแทน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายไทยวัย 68 ปี รับหน้าที่ดูแลระบบ SimBox โดยมีชายชาวจีนเข้ามาดูแลเรื่องระบบ และเซ็ตระบบให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา คือความผิดฐานเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ มาตรา 11 ปรับ 2-5 แสนบาท จำคุก 2-5 ปี และร่วมกันทำมีใช้นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ