หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ. เปิดปฏิบัติการค้นบริษัท หวังฮุบกิจการพันล้าน ต้นเหตุคดีจ้างวานฆ่า

วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 02:28 น.


ปอศ. เปิดปฏิบัติการค้นบริษัท หวังฮุบกิจการพันล้าน ต้นเหตุคดีจ้างวานฆ่า

(2 ต.ค.67) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)  โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ​พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. พร้อมกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษ (หนุมาน) ​เข้าตรวจค้น บริษัท แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกรรมการและผู้ถือหุ้นบางส่วนที่มีพฤติกรรมทุจริตเพื่อเข้าครอบครองหรือฮุบกิจการไว้เป็นของกลุ่มตนเอง โดยมีการทำปลอมแปลงเอกสารสำคัญทางบริษัท เช่น รายงานการประชุม สัญญาซื้อขาย และมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อถ่ายโอนทรัพย์สินจากบริษัทเดิมไปยัง  บริษัทใหม่ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท โดยสาเหตุดังกล่าวเป็นชนวนให้เกิดการขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจและความขัดแย้งภายในครอบครัว กระทั่งนำไปสู่การวางแผนจ้างวานฆ่าในคดีที่พ่อจ้างวานฆ่าลูกและภรรยาตนเอง ซึ่งมีการจับกุมผู้บงการและผู้มีส่วนร่วมในคดีจ้างวานฆ่าดังกล่าว จำนวน 3 ราย เมื่อปลายปี พ.ศ.2566 โดย 1 ในผู้ต้องหานั้นเป็นถึงอดีตนายพลเรือตรีชื่อดัง (ตามที่เคยข่าวโด่งดังในช่วงเวลาดังกล่าว)

​ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอศ. พบว่าหลังจากที่มีดำเนินการการจับกุมผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าดังกล่าวแล้ว ยังคงมีกลุ่มทหารที่เป็นลูกน้องของอดีตพลเรือตรีที่ถูกจับกุม จำนวนหลายนายเข้ามาดำเนินการ ในรูปแบบของผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ โดยมีพฤติการณ์แทรกแซงและเข้าควบคุมการดำเนินกิจการของบริษัท ในลักษณะข่มขู่พนักงานในบริษัท ภายใต้คำสั่งของกรรมการและผู้ถือหุ้นที่ทุจริตที่ถูกจับอยู่ภายในเรือนจำในคดีจ้างวานฆ่าและยังคงได้รับเงินเดือนและผลตอบแทนตามปกติ เป็นเหตุทำให้ผู้เสียหายที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่สามารถเข้ามาดำเนินกิจการภายในบริษัทได้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มทหารที่เข้ามาบริหารอยู่ภายในบริษัท จนนำมาสู่การเปิดปฎิบัติการสนธิกำลังระหว่าง เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอศ. และชุดปฏิบัติการพิเศษ(หนุมาน) เข้าดำเนินการตรวจค้นบริษัทดังกล่าว

โดย​ผลการตรวจค้น พบเอกสารเกี่ยวกับบัญชีซื้อขายและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจระหว่างบริษัทเดิมกับบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นลักษณะการปลอมแปลงเอกสารทางบัญชี, งบการเงิน, รายงานการประชุม ขึ้นมาเพื่อเป็นการถ่ายโอนทรัพย์สิน โดยระหว่างตรวจค้นพบกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่จำนวนหลายราย เข้ามาบริหารงานในบริษัทเดิม ในลักษณะว่าจ้างเป็นที่ปรึกษา โดยที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นมากที่สุดไม่ได้ยินยอมให้มีการว่าจ้าง ระหว่างตรวจค้นพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายรายอยู่แต่ละแผนกของบริษัท เช่น ฝ่ายบัญชี, ฝ่ายการผลิต และฝ่ายบริหาร เป็นต้น โดยหลังตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม