วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 17:05 น.
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเพื่อติดตามรับฟังรายงานการชันสูตรและพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด โรงพยาบาลตำรวจ ตำรวจท่องเที่ยว รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูให้การต้อนรับ
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ต้องจัดการในเรื่องของการชันสูตรพลิกศพ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นไปตามอัตลักษณ์บุคคลหรือไม่ โดยขอชื่นชมสถาบันนิติเวชวิทยา ที่ทำการชันสูตรทุกรายแล้ว ถือว่าเป็นความรวดเร็วมาก ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญเพราะถ้าคืนร่างน้องๆ และคุณครูให้กับครอบครัวได้เร็วเท่าไหร่ พวกเขาจะได้นำกลับไปประกอบพิธีกรรมได้เร็วยิ่งขึ้น ญาติที่ได้กลับบ้านก็จะเจอครอบครัว เพื่อคลายความเศร้าได้
“ส่วนที่ชั้น 3 ของสถาบันนิติเวชวิทยา ได้มีการเชิญพ่อแม่และญาติ มาช่วยเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อจะได้ไม่ต้องผ่าเชิงลึกมาก ทำให้กระบวนการทั้งหลายเสร็จเร็วขึ้น หลังจากนี้ก็เตรียมพร้อมลำเลียงร่างทั้ง 23 ร่าง กลับสู่จังหวัดอุทัยธานี โดยขณะนี้ทยอยนำร่างส่งกลับแล้ว ส่วนญาติก็จะจะมีรถพยาบาลพาไปส่ง ซึ่งมีทีมจิตแพทย์ช่วยผ่อนคลายความเครียดจนถึงปลายทาง ส่วนปลายทางมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี องค์กรที่เกี่ยวข้อง และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.พรรคภูมิใจไทย เตรียมสถานที่และความพร้อมรอรับแล้ว” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระมหากรุณาธิคุณที่จะรับร่างทุกร่าง เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ดังนั้นจะมีการพระราชทานเพลิงศพให้กับทุกคน โดยได้มีการประสานให้โรงเรียนได้ตั้งทำพิธีสวดศพด้วยกัน เพราะ “เขามาด้วยกัน ก็อยากให้ไปด้วยกัน” และ ทราบเบื้องต้นว่าจะสวดทั้งหมด 5 คืน หลังจากนั้นก็จะมีพิธีพระราชทานเพลิง
สำหรับการช่วยเหลือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินจากสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานประกันภัย กระทรวงยุติธรรม และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะเร่งดำเนินการมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย เพราะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเป็นเหตุที่มีความรุนแรงและมีความสูญเสียมาก ก็ขอให้ใช้หลักเกณฑ์เยียวยาสูงสุด ซึ่งฝ่ายปฏิบัติก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าญาติมีการร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ญาติส่วนใหญ่ทำใจได้ และตัวเองก็ให้กำลังใจไป แต่บางคนยังโกรธและเสียใจ ซึ่งเราก็จะมีทีม MCATT จากกรมสุขภาพจิต มาช่วยให้กำลังใจ โดยไม่ได้มีใครขออะไรเพิ่มเติม แค่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก อยากให้มีมาตรฐานที่ดีในการดูแลลูกหลานของพวกเขา ซึ่งก็ต้องยอมรับเรื่องนี้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนคนขับรถหรือเจ้าของรถผู้ประกอบการ ได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่ รวมถึงขยายผลว่าทำไมเกิดเหตุเช่นนี้
สำหรับวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) นายอนุทิน เตรียมเดินทางไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้บรรยากาศ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้มีการตั้งแถว ร่วมอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อวางแผนในการตั้งขบวนขนลำเลียงร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย ที่สามารถยืนยันตัวบุคคลและอัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อส่งร่างกลับไปยังภูมิลำเนา จังหวัดอุทัยธานี โดยขบวนจะออกจากโรงพยาบาลตำรวจมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เพื่อเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ก่อนเคลื่อนกลับไปยังภูมิลำเนา จ.อุทัยธานี
สำหรับขบวนทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถตำรวจทางหลวง ไว้เพื่อนำขบวนโดยแบ่งเป็น 5 ชุด 5 คัน และตามด้วยรถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่บรรจุร่างใส่โรง และปิดท้ายขบวนด้วยรถยนต์ของตำรวจท่องเที่ยว นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจ ยังได้มีการเตรียมนักเรียนพยาบาล 67 คน ตั้งแถว รอส่งขบวน โดยยืนเรียงแถวตั้งแต่ประตูทางเข้า โรงพยาบาลจนถึงหน้าอาคารนิติเวช เพื่อส่งดวงวิญญาณด้วย