หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 กันยายน 2567

วันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 05:35 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 กันยายน 2567

>> ตำรวจคลองหลวง ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร พบรถต้องสงสัย ค้นเจอยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด

10.30 น. พ.ต.ท.สิงหา เฟื่องแก้ว สว.จร.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ปัสสา รองสว.จร.สภ.คลองหลวง พร้อมตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง กว่า 10 นาย ตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ใกล้ทางเข้าตลาดไท ช่องทางคู่ขนาน กม.43+200 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พบรถยนต์ โตโยต้า วิช สีดำ ทะเบียน จ.นครศรีธรรมราช ขับเข้ามาในด่านตรวจ จึงขอตรวจสอบเนื่องจากพบว่าภาษีรถขาด มีนายสุทัศน์ อายุ 27 ปี เป็นคนขับ และนายวิษณุ อายุ 39 ปี นั่งมาด้วย ทั้งคู่มีอาการตัวสั่นผิดปกติ

ตำรวจจราจรจึงขอดูใบอนุญาตผู้ขับขี่ และตรวจรอบรถ จนพบกระเป๋าใบใหญ่ต้องสงสัยอยู่หลังรถ จึงขอตรวจค้นภายใน พบยาบ้าบรรจุอยู่ 3 กระสอบ รวม 134 มัด จำนวนยาบ้าทั้งหมด 1,340,000 เม็ด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.คลองหลวง

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติดมาจาก จ.สระบุรี เพื่อไปส่งที่จ.นครศรีธรรมราช อ้างว่าได้รับการว่าจ้างมาจาก “บังแจ๊ค” คนไทยที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้านให้ค่าจ้างขับรถไปส่งอย่างเดียวคนละ 10,000 บาททางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงประสานตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ ปปส.มาร่วมขยายผล หาตัวเจ้าพ่อยาเสพติดที่เกี่ยวข้องต่อไป

>> พ่อร้อง ลูกชาย 6 ขวบ ถูก 2นร.หญิง วัย11 จับแก้ผ้ารุมทำร้าย มัดมือมัดเท้า

11.00 น. จ.ภูเก็ต รายงานความคืบหน้าเหตุเด็กนักเรียนหญิงรุ่นพี่ อายุ 11 ปี 2 คน ทำร้ายเด็กชาย อายุ 6 ปี นักเรียนชั้น ป.1 ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยใช้เชือกมัดมือและเท้า พร้อมทั้งจับแก้ผ้าล่อนจ้อน ใช้เท้าถีบที่ศีรษะ แล้วใช้รองเท้าตบตีตามหลังตามตัว ศีรษะ และใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมานายพัน (นามสมมุติ) 32 ปี พ่อของเด็ก ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ฉลอง เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เกิดกับเด็กซึ่งอายุไม่เกิน 12 ปี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ประกอบ ป.อาญา มาตรา 73 การดำเนินการทางคดีเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ ให้พนักงานสอบสวนส่งให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

ทาง สภ.ฉลอง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ (พม.) ทราบ โดยส่งตัวเด็ก พร้อมผู้ปกครองไปยังบ้านพักเด็กเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และซักถามเด็กเพื่อจะทราบข้อเท็จจริง และดำเนินการคุ้มครองเด็กตามกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้นัดคู่กรณีพ่อแม่ของเด็กทั้งสองฝ่าย พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียน ทนายความอาสา ประจำสถานีตำรวจ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ฉลอง มาร่วมเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อ พร้อมหาทางออกยุติปัญหาและเจรจาค่าเสียหาย ซึ่งคู่กรณีทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้และยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย โดยผู้ปกครองของเด็กหญิงที่ก่อเหตุ ทั้ง 2 คน ตกลงจะชำระค่าเสียหายให้ จำนวนคนละ 5,000 บาท ในวันที่ 31 ส.ค. 67 และวันที่ 15 ก.ย. 67 หากมีการชำระเงินครบถ้วนทางฝ่ายผู้เสียหายจะไม่ติดใจเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ไม่ว่าทั้งทางแพ่งหรือทางอาญาอีกต่อไป

>> รวบ “ตุ่น ขาใหญ่สะพานสูง” แก๊งขายรถจำนำ แล้วกลับมาโจรกรรม

14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ร่วมกันจับกุมตัวนายพัฒน์ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม” จับกุมได้ภายในบ้านพัก แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากผู้เสียหายมีประกาศโพสต์ ว่ามีความประสงค์จะขอซื้อรถยนต์มาใช้ในกิจวัตรประจำวันทั่วไป จนกระทั่งได้มีนายหน้า เป็นหญิง ลักษณะคล้ายทอม เข้ามาติดต่อแจ้งว่าสามารถติดต่อและจัดหารถยนต์ตามที่ผู้เสียหายต้องการได้ เป็นรถยนต์ โตโยต้า วีโก้ สีเทาดำ โดยได้ตกลงซื้อรถคันดังกล่าว

ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดหมายและส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฏว่า นายหน้าสาวทอม ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งมอบ พร้อมกุญแจ 1 ดอกให้แก่ผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายได้ขับรถมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านของตน ต่อมากลุ่มผู้ต้องหากับพวก ได้แอบขับรถยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านผู้เสียหายไป

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามาทำการลักรถยนต์ของผู้เสียหายไปเป็นกลุ่มเดียวกันกับบุคคลที่จัดหา และนำรถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหายจริง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหากับพวก ต่อพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการลักรถยนต์ของผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่รับว่าเป็นผู้จัดหารถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> สั่งพักราชการ! ผอ.สพม.สระแก้ว ปม ครูเบญ ชื่อหาย หลังสอบติดอันดับ 1

15.30 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ​ คณะที่ปรึกษา​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ(ศธ.)​ ปฏิบัติ​หน้า​ที่โฆษก ศธ. เปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดสระแก้ว (ผอ.สพม.สระแก้ว) ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในการดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน ซึ่งพบว่ามีความผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อีกทั้งยังกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของศธ. นั้น

ศธ. แสดงความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผอ.สพม.สระแก้ว เพื่อให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปอย่างละเอียดและโปร่งใส ทั้งนี้ ศธ. ได้สั่งให้พักราชการ ผอ.สพม.สระแก้ว เป็นการชั่วคราว จนกว่าผลสอบสวนจะเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นมาตรการในการป้องกันการแทรกแซงหรือส่งผลกระทบต่อการสอบสวน เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ประกอบด้วยตำรวจ อัยการ และเจ้าหน้าที่ ศธ. ส่วนกลาง ทำงานอีกชุดหนึ่งด้วย พร้อมส่งหลักฐานทุกอย่างให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบความชัดเจน และยืนยันว่าไม่มีการแก้ไขหรือดัดแปลงหลักฐาน

>> กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 2 เตือนอากาศแปรปรวน ช่วง 29 ก.ย. – 3 ต.ค.

18.00 น. เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 2 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 3 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุม จะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

>> เตือนนักท่องเที่ยว ห้ามสัมผัสแมงกะพรุนถ้วยหลากสี ที่ชายหาดจอมเทียน

18.30 น. ที่บริเวณชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา เกิดปรากฏการณ์แมงกะพรุนถ้วยจำนวนมากลอยอยู่ในน้ำทะเล มีลักษณะก้อนวุ้นใสขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือช่วงที่มีพายุฝน โดยพบเห็นเป็นระยะเวลาติดต่อกันแล้วประมาณ 3-4 วัน บริเวณชายหาดดงตาล

นายวัลลภ บุญชู เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเล เมืองพัทยา เปิดเผยว่า แมงกะพรุนที่พบเป็นสายพันธุ์แมงกะพรุนถ้วย ซึ่งมีพิษไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่หากสัมผัสจะทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองตามผิวหนังได้ โดยเบื้องต้นได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่ทำกิจกรรมตลอดแนวชายหาดเพื่อความปลอดภัย

นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา แนะนำเพิ่มเติมว่า หากนักท่องเที่ยวสัมผัสถูกแมงกะพรุน ให้รีบนำน้ำส้มสายชูมาล้างบริเวณที่ถูกสัมผัสทันที เพื่อลดการระคายเคือง และขอให้ระมัดระวังขณะเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นประจำทุกปี แต่ก็ควรระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย แม้เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังพัทยา แต่ทางการก็ยังคงเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

>> บุกจับบ่อนรวบนักพนัน 15 คน เล่นไพ่ป๊อกแปด-เก้า ยึดของกลางเงินสด 100 บาท

19.20 น. ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 15 ราย ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังลักลอบเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปด-เก้า โดยมีของกลางเป็นเงินสดจำนวน 100 บาท ไพ่ป๊อก 3 สำรับ และอุปกรณ์สำหรับเล่นพนันอีกหลายรายการ ในการจับกุมครั้งนี้ พบว่ามีนายเกต (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและจัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางด้านทรัพย์สิน และ น.ส.รักษ์ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี รับเป็นเจ้ามือพนัน โดยสถานที่ดังกล่าวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อดูแลการเล่นพนันและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่น

หลังจากการเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปด-เก้า พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และมีผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 7 เป็นเจ้าบ้านและเจ้ามือในการเล่นพนันครั้งนี้

>> น้องสาวสุดแค้น คว้าปืนยิงพี่ชายดับ หลังบาดหมางนับ 10 ปี

20.25 น. ร.ต.อ.วิวัฒน์ พาวงศ์ รองสว.สอบสวน สภ.สามโก้ ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านหลังหนึ่งในอ.สามโก้ จ.อ่างทอง จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.สามโก้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายกระถางต้นไม้ บริเวณที่จอดรถหน้าร้านพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 60 ปี นอนหงายศีรษะพาดอยู่กับประตูข้างรถเก๋งโตโยต้า มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด โดยภายในบ้านเกิดเหตุพบหญิงอายุ 57 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุถืออาวุธปืนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบริเวณใกล้กันพบลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ให้การว่ามีเรื่องทะเลาะกับพี่มานานกว่า 10 ปี แล้ว ทะเลาะกันหลายเรื่องรวมถึงเรื่องมรดกที่ดิน ก่อนเกิดเหตุพี่ชายได้ขับรถมาจอดแล้วเดินทางเข้ามาหาเรื่อง และทำร้ายร่างกายตนจนทนไม่ไหวจึงได้ชักอาวุธปืนยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รถพ่วงกำลังเลี้ยวเข้าปั๊ม กระบะพุ่งชนท้าย ดับ 2 ศพ

21.00 น. พ.ต.ต.เทวฤทธิ์ อินทรจันทร์ สารวัตรเวร สภ.บางแก้ว จ.พัทลุง รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย บนถนนสายเพชรเกษมหาดใหญ่-พัทลุง ฝั่งขาขึ้น พื้นที่ ม.8 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จึงนำกำลังตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ชีพเทศบาลตำบลแม่ขรี

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน พัทลุง ชนท้ายรถบรรทุกพ่วงลาก 18 ล้อ ทะเบียน ชลบุรี บริเวณท้ายด้านขวา สภาพด้านหน้าพังยับ ส่งผลให้ผู้ขับขี่และโดยสารมากับกระบะเสียชีวิตทั้ง 2 คน คนขับรถบรรทุกพ่วง18 ล้อ กล่าวว่า ขณะขับรถขนสินค้าจาก อ.สะเดา จ.สงขลา มุ่งหน้าปลายทาง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เปิดไฟเลี้ยวจะเข้าปั๊มเติมน้ำมัน จู่ๆ มีรถยนต์กระบะที่ขับตามหลังพุ่งชนท้ายรถอย่างแรง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

>> "มีแต่ทางขึ้น" กระบะหลงขึ้นสะพานกำลังก่อสร้างพลัดตกใกล้แยกสุขสมาน รถพังยับ เจ็บ 3 ราย พ่อ-แม่-ลูกวัย 1 ขวบ

02.00 น. (29 ก.ย.67) รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุบริเวณใกล้เคียงแยกสุขสมาน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตกจากสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ใกล้เคียงแยกสุขสมาน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย พ่อ-แม่-ลูกวัย 1 ขวบ สอบถามคนขับให้ข้อมูลว่าบริเวณทางขึ้นสะพานนั้นไม่ได้มีป้ายกั้นหรือป้ายห้ามขึ้นจึงขับขึ้นมา โดยไม่ทราบว่าบนสะพานสร้างไม่แล้วเสร็จ จนทำให้พลัดตกลงจากสะพานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว กู้ภัยร่วมกตัญญูให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.จรเข้น้อย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม