หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567

วันที่ 21 กันยายน 2567 เวลา 05:42 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 20 กันยายน 2567


>> อดีตแข้งฟุตบอลไทยลีก ขับเบนซ์ชนแบริเออร์ก่อนพลิกคว่ำ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์หลุดเกลื่อนถนน ดับ 2 ศพ

06.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน รับแจ้งเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ บริเวณหน้าร้านอาหารอีสาน ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนนพบรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยิน รถพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า เครื่องยนต์และล้อหน้าทั้งสองฝั่งหลุดกระเด็นเกลื่อนถนน

บริเวณเลนซ้าย พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา คือ นายกิตติพงษ์ อายุ 29 ปี สภาพร่างกายกระดูกหัก ลำตัวบิดผิดรูป กะโหลกศีรษะแตก ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 1 ราย เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุรถเบนซ์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง ระหว่างลงจากสะพานข้ามถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงจังหวะที่รถวิ่งลงมาบริเวณพื้นผิวถนนซึ่งมีหลุมอยู่ คาดว่าผู้ขับขี่อาจตกใจและหักเลี้ยวรถหลบ ทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเสยขอบทางอย่างแรงและพลิกคว่ำหงายท้อง เครื่องยนต์และล้อหลุดออกจากตัวรถ โดยคนขับขี่และผู้โดยสาร ร่างกายกระเด็นออกจากตัวรถทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายกิตติพงษ์ หรือ ปอนด์ อดีตเคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลสังกัดทีม อินทรีทัพฟ้า (Airforce Central FC) และปัจจุบันทำธุรกิจเปิดขายสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนมทางออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก


>> รถบัสรับ-ส่งนักเรียน หลบรถสวนทางไม่พ้น ตกถนนพลิกตะแคงลงข้างทาง นักเรียนบาดเจ็บ 20 คน

07.30 น. ศูนย์วิทยุสั่งการ 1669 จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุรถรับ-ส่ง นักเรียนพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนสายบ้านโพนยาง – บ้านหนองไผ่ ในพื้นที่ ต.โพนยาง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุ พบรถบัส สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ศรีสะเกษ ตะแคงพลิกคว่ำตกข้างทาง มีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ของโรงเรียนวัดหลวงวิทยาได้รับบาดเจ็บจำนวน 20 คนเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้เข้าช่วยเหลือนักเรียน เบื้องต้น มีทั้งสามเณร และนักเรียนทั่วไป จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำส่งไปรักษา ต่อที่โรงพยาบาลวังหิน

สอบถาม คนขับรถ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถออกจากโรงเรียนเพื่อไปรับ นักเรียนตามหมู่บ้าน เพื่อไปส่งที่โรงเรียน ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองศรีสะเกษ ระหว่างเส้นทางบ้านโพนยาง ไปบ้านหนองไผ่ เป็นเส้นทางที่แคบ หลบหลีกกันลำบาก ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง และในระหว่างนั้นมีรถสวนมาอีกคัน ตนจึงขับหลีกด้านซ้ายเต็มที่ จึงทำให้ล้อหลังตกข้างทาง ซึ่งไม่มีไหล่ทาง ตัวรถจึงเสียหลักตะแคงพลิกคว่ำ จึงทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ปกครองที่ทราบข่าวได้เดินทางมารับลูก กลับบ้านทันที่ซึ่งในวันนี้จะไม่ให้ไปเรียน เพราะเกิดเสียขวัญแล้ว โดยจะให้สภาวจิตใจดีขึ้นก่อนจึงจะอนุญาตให้ไปเรียนต่อได้


>> ปภ. เผยยังมี "น้ำท่วม" ในพื้นที่ 5 จังหวัด เร่งช่วยเหลือประชาชน

10.10 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก หนองคาย พระนครศรีอยุธยา และสตูล รวม 23 อำเภอ 124 ตำบล 630 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,064 ครัวเรือน เร่งส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 20 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 30 จังหวัด รวม 157 อำเภอ 710 ตำบล 3,764 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 150,450 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน ซึ่งปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 23 อำเภอ 124 ตำบล 630 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,064 ครัวเรือน


>> นายกฯ ร่วม "ประสานพลัง ประสานใจ" หารือจิตอาสา ก่อนรับมอบของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน “ประสานพลัง ประสานใจ” เพื่อรับมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคจากทั้งภาคเอกและภาครัฐเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ประสบภัย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

โอกาสนี้ นายกฯ ได้พูดคุยกับคณะจิตอาสา 12 องค์กรและภาคเอกชน โดยกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือกันในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ เช่น ตัวแทนสมาคมเจ็ตสกี เสนอให้ทำเขื่อนริมแม่น้ำแม่สาย ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ RDAT เสนอว่าควรมีแอปพลิเคชันกลางในการจ่ายงานและการขอความช่วยเหลือ เป็นต้น


>> ทลายแหล่งผลิตน้ำต้มใบกระท่อมรายใหญ่ 2 แห่ง ใน จ.สงขลา ยึดของกลางเพียบ

11.30 น. นายอำเภอหาดใหญ่ สนธิกำลังบุกทลายโกดังผลิตและขายส่งน้ำต้มใบกระท่อมรายใหญ่ 2 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้กันในย่านชานเมืองหาดใหญ่ บริเวณ ซ.หินผุดวัฒนา ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

จากการตรวจสอบ พบมีหม้อต้มน้ำกระท่อมโกดังละ 30 หม้อ พร้อมด้วยอุปกรณ์ และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในการต้มน้ำใบกระท่อม นอกจากนี้ยังพบเครื่องปั่นใบกระท่อม ซึ่งพบเป็นที่แรกด้วย เนื่องจากโกดังทั้ง 2 จุดนี้ ผลิตน้ำต้มกระท่อมเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาเครื่องมือมาใช้ทุ่นแรงและเวลา

นอกจากนี้ยังพบน้ำต้มใบกระท่อมที่บรรจุใส่ขวดเอาไว้แล้วใส่อยู่ในกระสอบ รอส่งต่อให้กับลูกค้าทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และใกล้เคียง อีก 4,610 ขวด และสมุดโพยรายการและออเดอร์น้ำต้มใบกระท่อม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับยึดรถยนต์กระบะตู้ทึบอีก 2 คัน ที่จอดอยู่หน้าโกดังที่ใช้สำหรับการส่งน้ำต้มกระท่อมให้กับลูกค้าด้วย


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถเครน คุณตาวัย 71 ปีถูกล้อทับดับ

12.10 น. มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถเครน และมีผู้เสียชีวิต กลางถนนวัดโพธิ์ เลยแยกในลึก เล็กน้อย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถเครน สีเหลือง ป้ายทะเบียน นครปฐม จอดอยู่กลางถนน ที่ใต้ท้องรถพบ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ล้มคว่ำ ใกล้กันพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 71 ปี ลักษณะถูกล้อรถเครนทับบริเวณศีรษะ ใรส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี


>> 'ซูลิก' เข้าไทยถล่มมุกดาหาร ตั้งแต่ค่ำคืนต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

13.29 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ซูลิก ทำให้ช่วงกลางคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้ามีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ซึ่งจังหวัดมุกดาหารได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่ได้มีการซักซ้อมในการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังการลงพื้นที่สำรวจ บ้านเรือน ที่ได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมขัง และให้การช่วยเหลือทันที พร้อมทั้งยังได้มอบ ชุดถุงยังชีพ ผ้าห่ม ชุดยาเวชภัณฑ์และยังลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเปราะบาง มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจอีกด้วย ทั้งนี้ปริมาณฝนเริ่มลดลงเนื่องจากศูนย์กลางพายุผ่านขึ้นไปทางภาคเหนือแล้ว


>> บุกรวบ หนุ่มหัวใสเปิดเพจ รับฝังมุก-ฉีดขยายเจ้าโลก พบเหยื่อติดเชื้อ ใช้การไม่ได้

14.00 น. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการ ปคบ. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จับกุม นายกอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยา, เวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 22 รายการ โดยจับกุมได้ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับการร้องเรียนว่า นายกอ ลักลอบให้บริการผ่าตัดฝังมุก เสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายให้ประชาชนทั่วไปผ่านเฟซบุ๊ก จากนั้นมีผู้เสียหายรายหนึ่งรับการฉีดซิลิโคนเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ จนเกิดการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง แม้หลังจากรับการรักษาแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดทรมาน รวมทั้งอวัยวะเพศไม่แข็งตัว จนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อีกเลย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับติดต่อใช้บริการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายและฝังมุก โดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่ในการนัดหมาย ก่อนแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว

จากการสอบสวน นายกอ สารภาพว่า ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด ส่วนสถานที่ผ่าตัดฝังมุกนั้น เป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนดัดแปลงเป็นสถานที่รับผ่าตัดหรือฉีดเพิ่มขนาด ไม่มีเตียงและเครื่องมือแพทย์ที่ถูกสุขอนามัย อีกทั้ง ตนเรียนจบแค่ชั้น ม.3 ต่อมาได้เรียนวิชาฝังมุกและเริ่มทำครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี และทำมาตลอดรวมๆ แล้วประมาณ 20 ปี คิดค่าบริการครั้งละ 5,000-20,000 บาท มีลูกค้าเดือนละ 2-3 ราย

เบื้องต้น แจ้งข้อหา "ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต" ก่อนนำตัวส่ง กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> เพลิงไหม้ในร้านอาหาร ย่านซอยราชปรารภ 12 มีผู้บาดเจ็บ

14.42 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยราชปรารภ 12 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ประกอบกิจการร้านอาหารเมียนมา ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ภายในห้องครัว เพลิงลุกไหม้เสียหายเตาแก๊ส อุปกรณ์เครื่องครัว ลุกลามฝาผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 1 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก วาล์วแก๊สชำรุด ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย 1.เพศหญิง อายุ 52 ปี ไฟลวกบริเวณใบหน้า 2.เพศชาย อายุ 22 ปี ไฟลวกบริเวณใบหน้า แขน และ ขา ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ไม่ต้องการไปโรงพยาบาล พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท


>> กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.ที่ 14 'พายุซูลิก' อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง

16.00 น. ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 14 พายุดีเปรสชัน “ซูลิก” ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว และปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อนึ่งในช่วงวันที่ 21–23 ก.ย. 67 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “ซูลิก” เคลื่อนเข้าปกคลุม บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน


>> ฝนลมถล่มเมืองนนท์ ต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับรถยนต์และบ้านพังเสียหาย

16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และพื้นที่ของ อ.ปากเกร็ด เกิดต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม ทับรถยนต์เสียหาย 2 คัน เหตุเกิดในซอยวัดโพธิ์บ้านอ้อย บริเวณหน้าโรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครปากเกร็ดเร่งนำกำลังพลและอุปกรณ์ลงพื้นที่

ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ 3 ต้นลักษณะโค่นล้มไปทับรถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะเสียหาย2 คัน โดยเฉพาะรถกระบะมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่หักแล้วทับลงมาบนหลังคาของรถพอดีได้รับความเสียหนัก ทราบว่าเจ้าของรถทั้ง 2 คันนั้นช่วงเกิดเหตุออกไปทำงานยังไม่กลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบกิ่งไม้หักโค่น ไปทับหลังคาชั้น 2 พังเสียหาย ขณะเดียวกันภายในซอยดังกล่าวยังมีบ้านอีกจำนวนหลายหลังที่ถูกพายุฝนลมกระโชกแรง พัดสังกะสี กระเบื้องหลังคาหลุดออกและแผ่นเมทัลชีท ปลิวหลุดไปพาดกับสายไฟด้วย

นางเกษร อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักและลมกระโชกแรงจู่ๆ ก็ได้ยินสิ่งของบางอย่างตกลงมาใส่หลังคาบริเวณห้องครัวและสังเกตเห็นว่ากระเบื้องนั้นแตก จึงได้เดินออกมาดูบริเวณหน้าบ้านก็พบเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับรถอยู่ หลังฝนหยุดตกก็เดินสำรวจ และพบว่ากระเบื้องหลังคาชั้น 2 ถูกกิ่งไม้หล่นใส่ได้รับความเสียหายเช่นกัน 
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้เลื่อยยนต์ทำการตัดกิ่งไม้เป็นท่อน เพื่อเคลื่อนย้ายกิ่งไม้และต้นไม้ทั้งหมดออกจากตัวบ้าน รถยนต์และถนนโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง


>> เสียงระเบิดปริศนาดังสะเทือนสุราษฎร์ เขื่อนรัชชประภาแจงไม่มีแผ่นดินไหว

17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อโซเชียลสุราษฎร์ธานี ได้มีผู้โพสต์ข้อความตามหาการเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่แถบตะวันตกของ จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งที่ อ.พุนพิน คีรีรัฐนิคม บ้านตาขุน วิภาวดี พนม เวียงสระ และ อ.พระแสง ซึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

ขณะที่ นายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประสานไปยังเขื่อนรัชชประภาเพื่อตรวจสอบเครื่องตรวจวัด เนื่องจากมีประชาชนสงสัยว่าอาจจะเกิดจากแผ่นดินไหว ซึ่งเขื่อนรัชชประภาระบุว่า ไม่มีรายงานแผ่นดินไหวในพื้นที่ หรือบริเวณใกล้เคียงแต่อย่างใด

นายทรงภูมิ พงษ์กสิเทวินท์ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา ทำการแทนผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี แจ้งสภาพตัวเขื่อนรัชชประภา ระบุว่า ตามที่ประชาชนได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด เกิดความวิตกกังวลว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว หรือเกิดเหตุการณ์เขื่อนแตกนั้น ขอชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลด้วยเครื่องมือวัดแล้วไม่พบว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่และเขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรง


>> เพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ บริเวณแยกขัตติยานี จนท.ดับทันเสียหายเกือบทั้งคัน

18.35 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ใกล้เคียงพระราชวังดุสิต บริเวณแยกขัตติยานี แขวงดุสิต เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง - ขาว หมายเลขทะเบียน สุพรรณบุรี รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบางส่วน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน


>>แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.57 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ความลึก 5 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 263 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 
 

>> เหตุชิงทรัพย์พนักงานปั๊มแก๊ส

04.11 น. ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ตำรวจ 191 แจ้งเหตุ คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อแขนสั้น กางเกงยีนส์ หมวกสีขาว ใช้อาวุธไม้ ก่อเหตุชิงกระเป๋าเงิน ของพนักงานปั๊มแก๊ส ถนนกรุงธนบุรี หลังก่อเหตุวิ่งราวหนีออกไปไม่ทราบเส้นทาง

ผู้เสียหายเป็น พนักงานปั๊มแก๊ส ถนนกรุงธนบุรี ใกล้เคียงตึกสินสาทร เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ระหว่างที่ตนเองนั่งพักอยู่ในปั๊ม คนร้ายเป็นชาย 1 คน เดินเข้ามาจากด้านหลังแล้วใช้ไม้ตีมาที่ศีรษะ แล้วเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าคาดเอวที่ภายในมีเงินสดที่มีไว้ทอนลูกค้า จำนวนพันกว่าบาท แต่ตนเองพยายามขัดขืนและยื้อไว้ จึงถูกคนร้ายลากตัวเองไปตามพื้น สุดท้ายต้องยอมให้เอาไป หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีออกไปหน้าปั๊ม ล่าสุดผู้เสียหายพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม