สืบนครบาล ร่วมสืบ115 รวบ บัญชีม้าแก๊งโรแมนซ์สแกม บอกว่าจะส่งของมาให้ แต่หลอกให้โอนเงินไปชำระภาษีก่อน

เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุม นายสุ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือหลอกลวง ,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น  มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลหนึ่ง จับกุมบริเวณริมถนนภายในซอยร่วมประดิษฐ์ ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้รับข้อความจากชื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ว่าจะมีของส่งมาให้จากต่างประเทศ โดยให้ผู้เสียหายชำระค่าภาษีเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท โดยมีการโอนชำระจากบัญชีต้นทาง ไปยังบัญชีปลายทางธนาคารชื่อบัญชี นายสุ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา เป็นจำนวน 20,000 บาท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.50 น. ต่อมาผู้แจ้งทราบว่าตนน่าจะถูกหลอกลวง จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์

ในชั้นจับกุม นายสุ (นามสมมุติ) ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส.ยา (นามสมมุติ)  ให้นำบัตรประชาชนไปเปิดหมายเลขโทรศัพท์ใหม่เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร เมื่อนำซิมและบัญชีมาให้จึงได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 1,000 บาท จากนั้นทราบจาก น.ส.ยา (นามสมมุติ) ว่ามีเงินโอนเข้ามา 10,000 บาท แต่ น.ส.ยา (นามสมมุติ) บอกว่า “ยังไม่ต้องทำอะไร เงินยังน้อยไป” จนมีเงินโอนมาเพิ่มอีก 20,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท น.ส.ยา (นามสมมุติ) จึงให้ นายสุ (นามสมมุติ) ไปสแกนใบหน้าในแอปฯ หน้าตู้เอทีเอ็มเพื่อถอนเงินออกมาแบ่งกับ น.ส.ยา (นามสมมุติ) โดยนายสุ (นามสมมุติ) ได้เงิน 20,000 บาท และ น.ส.ยา (นามสมมุติ) 10,000 บาท นายสุ (นามสมมุติ) นำเงินไปใช้ซ่อมรถและแบ่งให้ภรรยา หลังจากนั้นเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีนายสุ (นามสมมุติ) จึงได้ทราบว่าบัญชีของตนถูกอายัดทั้งหมด จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางเขน ดำเนินคดีต่อไป