หน้าแรก > สังคม

ททท. จับมือ สดร. ดำเนินโครงการ "AMAZING DARK SKY IN THAILAND" สู่ปีที่ 3 พร้อมประกาศ 18 โลเคชั่นประจำปี 2567 แหล่งท่องเที่ยวดูดาวแห่งใหม่ของเมืองไทย

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 20:11 น.


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ผู้อำนวยการ สดร. เปิดตัวโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season3 ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ต่อเนื่อง เผยลิสต์ 18 พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ทั่วประเทศ พร้อมมอบโล่ประกาศแก่พื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย เพื่อปลุกกระแสการเดินทางมิติใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษที่ต้องการเดินทางสัมผัสความงดงามของธรรมชาติยามค่ำคืน

​นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่า โครงการ “AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season3” เป็นโครงการส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ททท. และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.โดยมุ่งสนับสนุนรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ ให้เป็นหนึ่งในสินค้าการท่องเที่ยวที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ เพื่อสร้างความหมายให้การเดินทางท่องเที่ยวในเมืองไทยมีคุณค่า แตกต่าง และน่าประทับใจมากกว่าที่เคย ทั้งยังสะท้อนศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวไทยที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวอย่างครอบคลุม สอดรับกับแนวทางการขับเคลื่อนปีท่องเที่ยวไทย 2567 และแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 365 วัน

ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานด้านดาราศาสตร์ และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย มีหนึ่งพันธกิจหลักสำคัญ คือ ให้บริการวิชาการ สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ และสื่อสารดาราศาสตร์สู่สังคม เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ทั้งนี้ สถาบันฯ ได้ดำเนินโครงการเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2563 เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากมลภาวะทางแสง อนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้า และให้ความสำคัญในการประหยัดพลังงานและปรับพฤติกรรมการใช้แสงไฟ เป็นผลให้ในปี พ.ศ. 2565-2566เกิดเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย จำนวน 30 แห่ง นับเป็นพื้นที่นำร่องปลุกกระแสความสนใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์ที่จะนำมากระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ส่งเสริมประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงทางดาราศาสตร์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ และเป็นสถานที่ถ่ายภาพสำหรับกลุ่มนักดาราศาสตร์สมัครเล่น ด้วยเหตุนี้จึงผลักดันให้เกิดเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย

  • อุทยานท้องฟ้ามืด เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่รักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม รักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต และระบบนิเวศ 
  • ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน เทศบาล ตำบล ที่รักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ภายใต้ความร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชน
  • เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น รีสอร์ต โรงแรม ฟาร์ม ศูนย์การเรียนรู้ ฯลฯ ที่รักษา และสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ไม่มีมลภาวะทางแสง มีความปลอดภัย
  • เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง มีลักษณะเป็นลานโล่ง มีการใช้แสงสว่างอย่างระมัดระวังสามารถสังเกตปรากฏการณ์และจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทางดาราศาสตร์ ซึ่งพื้นที่ที่รับเข้าเกณฑ์พิจารณาผ่านการคัดเลือก จะเป็นพื้นที่โล่งไม่น้อยกว่า 100 ตารางเมตรสังเกตการณ์ท้องฟ้าได้โดยรอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ บริหารจัดการปริมาณแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพใน 3 ปัจจัย ได้แก่ ทิศทางแสง อุณหภูมิแสงสว่าง การควบคุมเวลาเปิดปิด ปราศจากแสงรบกวน ค่าความมืดท้องฟ้ามีค่าไม่น้อยกว่า 19 แมกนิจูด/ตารางฟิลิปดา สามารถสังเกตเห็นดาวเหนือได้และสังเกตเห็นดาวฤกษ์ที่สว่างน้อยที่สุด หรือวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน โดยต้องมีผู้ให้บริการความรู้พื้นฐานทางดาราศาสตร์ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการอย่างครบถ้วน อาทิ เส้นทางคมนาคม ห้องนำ ที่พัก ร้านอาหาร จุดบริการไฟฟ้า ฯลฯ

ในปีนี้ได้มีผู้แทนทั้ง 18 พื้นที่ดูดาว จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประจำปี 2567 และสื่อการเรียนรู้ดาราศาสตร์สนับสนุนการจัดกิจกรรมดาราศาสตร์ เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่สนใจต่อไป มีดังนี้ อุทยานท้องฟ้ามืด จำนวน 6 พื้นที่ ได้แก่ สวนป่าบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน อุทยานแห่งชาติตาดโตน จ.ชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร และอุทยานแห่งชาติภูเวียง จ.ขอนแก่น ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด จำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ วัดมกุฏคีรีวัน เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล จำนวน 10 พื้นที่ ได้แก่ ฉ่าเก่อปอ จ.เชียงใหม่ พร้าวแคมป์ปิ้งค์ จ.เชียงใหม่ ฮ่อมลมจอย จ.เชียงราย ภาวนานิเวศน์ แคมป์ จ.นครสวรรค์ ภูคําหอม เขาใหญ่​จ.นครราชสีมา สวนไพลินชมดารา จ.นครราชสีมา อุ่นฟ้าอิงดาวแคมป์ปิ้ง จ.นครราชสีมา โรงแรมโซเนวา คีรี จ.ตราด บ่อแสน วิลล่า แอนด์ สปา จ.พังงา และอธิ การ์เด้นท์ แคมป์ปิ้ง จ.พังงา เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง จำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ ในอนาคต สดร. ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สำหรับหน่วยงาน โรงแรม รีสอร์ท ชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์ ทั่วประเทศที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยได้ที่ หรือสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book

ข่าวยอดนิยม