หน้าแรก > ภูมิภาค

หวิดบานปลาย ลูกหนี้ขู่แจ้งจับเจ้าหนี้ ยักยอกถังแก๊ส หลังเตรียมเงินนำมาไถ่ แต่เจ้าหนี้มาช้า

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 20:20 น.


วันที่ 27 ก.ค.67 เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ฝ่ายลูกหนี้ พร้อมกับหลานสาวได้เดินทางมายัง สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมกับ น.ส.ช่อลดา (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ฝ่ายเจ้าหนี้ พร้อมกลุ่มญาติ ซึ่งขับรถกระบะบรรทุกถังแก็ส จำนวน 6 ใบ มาจอดหน้าโรงพัก ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดศึกโต้เถียงกันอย่างดุเดือด

โดยฝ่าย น.ส.วาสนา ซึ่งเป็นลูกหนี้กล่าวหา ว่าฝ่าย น.ส.ช่อลดา เจ้าหนี้โยกโย้ เล่นเหลี่ยม ไม่เอาถังแก็สจำนวน 6 ใบ ที่ยึดเป็นตัวประกันไว้มาคืนให้ ตามที่ลงบันทึกประจำทำสัญญาไถ่ถอนกันไว้

ขณะที่หลานชายของ น.ส.ช่อลดา ตอบโต้ว่า จะไม่ให้เวลาฝ่ายเจ้าหนี้หารถกระบะขนถังแก็สมาเลยหรือไง ทีป้าของเขารอเงินใช้หนี้มาเป็นปี ๆ ยังรอได้เลย ทำให้ต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันไปมา รวมทั้งเรื่องที่ฝ่ายหลานสาวของ น.ส.วาสนา ไปไลฟ์สดด่าและข่มขู่ฝั่งหลานของ น.ส.ช่อลดา ว่าจะเอาระเบิดไปวางใส่ร้านขายโจ๊กอีกด้วย

ต่อมาในระหว่างที่ต่างฝ่ายต่างจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกันนั้น ผู้สื่อข่าวได้ขอดูใบลงบันทึกประจำวัน ที่ทั้งสองฝ่ายเดินทางมาทำสัญญาตกลงกันไว้แล้วก่อนหน้า จึงพบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค ที่ผ่านมา น.ส.วาสนา ฝ่ายลูกหนี้และ น.ส.ช่อลดา ฝ่ายเจ้าหนี้ ได้เดินทางมาทำสัญญาตกลงค่าเสียหายและชดใช้เงินกู้ยืม โดย น.ส.วาสนา ได้นำถังแก็ส ขนาด 15 กิโลกรัม จำนวน 5 ถัง และถังแก็ส 4 กิโลกรัม 1 ใบ เป็นทรัพย์สินค้ำประกันระหว่างที่ น.ส.วาสนา ได้กู้ยืมเงินไป 1.2 หมื่นบาท และทาง น.ส.ช่อลดาจะรับผิดชอบซ่อมหน้าจอแทปเลต ที่แตกร้าวจากการไปติดตามทวงหนี้ให้กับ น.ส.วาสนา ฝ่ายลูกหนี้

โดยมีกำหนดนัดหมายคืนเงินและคืนถังแก็สกันในวันที่ 5 ส.ค.นี้ แต่ปรากฎว่าฝ่าย น.ส.วาสนา สามารถรวบรวมเงินจำนวน 12,000 บาท เพื่อมาใช้หนี้และไถ่ถอนถังแก็สทั้งหมดได้แล้ว จึงได้ติดต่อนัดหมายให้ทาง น.ส.ช่อลดา นำถังแก็สมาคืนให้ทีโรงพักต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฎว่าในระหว่าง ที่ น.ส.วาสนา พูดคุย กับ น.ส.ช่อลดา ฝ่ายเจ้าหนี้เพื่อให้นำถังแก็สมาคืนนั้น น.ส.ช่อลดาอ้างว่า ยังหารถขนถังแก็สมาไม่ได้เลย ต้องรอรถหลานชายที่ออกไปทำธุระอีกประมาณ 3 ชั่วโมง จึงทำให้ทาง น.ส.วาสนา เกรงว่าจะ น.ส.ช่อลดา จะเล่นแง่ไม่นำถังแก็สมาคืน ตามที่ทำสัญญาตกลงกันไว้ จึงต่อว่า น.ส.ช่อลดาฝ่ายเจ้าหนี้ไปว่า เล่นแง่ เล่นเหลี่ยม และจะเข้าแจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์ จึงทำให้ฝ่าย น.ส.ช่อลดา และครอบครัวไม่พอใจ เมื่อนำถังแก็สขึ้นรถกระบะมาถึงโรงพักจึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด

ต่อมาทั้งสองฝ่ายยังโต้เถียงกันไปมาอีกหลายเรื่อง รวมทั้งค่าซ่อมแทปเลตของ น.ส.วาสนาที่หน้าจอพังเสียหาย ซึ่งทาง น.ส.วาสนา ฝ่ายลูกหนี้เรียกค่าซ่อมหน้าจอเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ที่ น.ส.ช่อลดาฝ่ายเจ้าหนี้ทำเสียหาย แต่ฝ่าย น.ส.ช่อลดา เห็นว่าค่าซ่อมหน้าจอแพงเกินไป จึงเกิดการโต้เถียงในโรงพักกันอีกรอบ

ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะมาได้บทสรุปในทีหลังว่า ทางฝ่าย น.ส.วาสนา จะชดใช้เงินที่กู้ยืมเงินไปคืนให้จำนวน 10,500 บาท โดยหักเป็นค่าซ่อมหน้าจอแทปเลตไป 1,500 บาท จากยอดเงินติดค้าง 12,000 บาท เพื่อไถ่ถังแก็สจำนวน 6 ใบกลับคืน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป

น.ส.ช่อลดา ฝ่ายเจ้าหนี้ กล่าวว่า น.ส.วาสนา มาหยิบยืมเงินจากตนไปประมาณ 3 หมื่นบาท แต่ทยอยใช้หนี้มาแล้วจนเหลือเงินต้น 12,000 บาท จากนั้นก็บ่ายเบี่ยงที่จะชดใช้หนี้ที่เหลือกับตนมาเป็นปี ๆ จนกระทั่งต่อมา ตนบุกทวงไปหนี้ที่ร้านของเขา และทำหน้าจอแทปเลตของเขาพัง ซึ่งส่วนนี้ตนก็ยอมชดใช้ค่าซ่อมให้ แต่ในวันนั้นทาง น.ส.วาสนายังไม่มีเงินมาใช้หนี้ให้กับตน เขาจึงเสนอมาว่าให้ตนเอาถังแก็สใบใหญ่ 5 ใบ และถังแก็สลูกเล็กอีก 1 ใบ ค้ำประกันเงินที่ติดค้างไว้ก่อน โดยเขาเป็นฝ่ายให้หลานชายเขายกถังแก็สในร้านออกมาให้ตนเองถึงที่รถ

โดยได้มีการลงบันทึกประจำวันกันไว้เป็นหลักเรียบร้อยแล้ว ว่าจะนำเงินที่ค้างอีก 12,000 บาท มาคืนให้กับตนภายในวันที่ 5 ส.ค.นี้ แต่ปรากฎว่าเช้าวันนี้ทาง น.ส.วาสนา ซึ่งหาเงินมาใช้หนี้ได้แล้ว ได้โทรศัพท์มาเร่งให้ตนรีบนำถังแก็สมาคืนที่โรงพักเร็ว ๆ ซึ่งตนก็ไม่ทันเตรียมตัวมาก่อน รถกระบะที่จะใช้ขนถังแก็สมา หลานชายก็นำไปทำธุระ จึงได้บอกให้ทาง น.ส.วาสนา ไปรอตนก่อนที่โรงพัก แต่ น.ส.วาสนากลับต่อว่ากล่าวหาว่าตนเล่นแง่ ไม่คืนถังแก็สให้ตามที่ตกลง และจะเข้าแจ้งความจับตนหาว่าตนยักยอกถังแก็สเขาไป ตนเองและกลุ่มหลานๆ จึงเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเกิดการโต้เถียงกันตามมาอีก

เรื่องที่ น.ส.วาสนาจะเรียกค่าซ่อมหน้าจอแทปเลต 2,000 บาท แต่หลานตนเห็นว่าเป็นค่าซ่อมที่แพงเกินไป จึงให้ น.ส.วาสนาจ่ายเงิน 12,000 บาท มาให้ครบเสียก่อนแล้วหลังจากนั้น ทางฝ่ายหลานตนจะนำแทปเลตไปซ่อมให้เอง ตนจึงตัดสินใจเรียกเงินจาก น.ส.วาสนาเป็น 10,500 บาท โดยให้หักค่าซ่อมไป 1,500 บาท น.ส.วาสนาจึงกดโอนเงินมาให้ตน 10,500 บาท เพื่อนำแทปเลตไปซ่อมเอง ก่อนที่ น.ส.วาสนาจะขนถังแก๊สขึ้นรถกระบะกลับไป 

ข่าวยอดนิยม